ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.ร่วมพัฒนาห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชถวายเพื่อพ่อหลวง  (อ่าน 980 ครั้ง)

ออฟไลน์ Por-MedTech

  • Global Moderator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 1192
    • อีเมล์
สธ.ร่วมพัฒนาห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชถวายเพื่อพ่อหลวง





               กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับ มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช และธนาคารออมสิน พัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช โดยพัฒนางานด้านห้องปฏิบัติการพยาธิวิทยาคลินิก และงานเวชกรรมฟื้นฟูให้ได้มาตรฐานสากล ให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลและทุรกันดารได้รับการรักษาอย่างทั่วถึงและเท่าเทียมกันเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในโอกาสเจริญพระชนมพรรษา 84 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม 2554

               น.พ.อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เปิดเผยว่า ในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ ธันวาคม 2554  มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข และธนาคารออมสิน ได้จัดทำโครงการพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั้ง 21 แห่งทั่วประเทศ โดยเน้นการพัฒนางานห้องปฏิบัติการพยาธิวิทยาคลินิก และงานเวชกรรมฟื้นฟู เพื่อเฉลิมพระเกียรติและถวายเป็นพระราชกุศลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โดยจัดทำเป็นโครงการ 4 ปี ตั้งแต่ปี 2554 – 2257  ซึ่งได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากธนาคารออมสินจำนวน 84 ล้านบาท มีเป้าหมายให้ประชาชนในเขตชนบทในพื้นที่ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั้ง 21 แห่ง ได้รับบริการตรวจวินิจฉัยจากห้องปฏิบัติการพยาธิวิทยาคลินิก และรับบริการงานเวชกรรมฟื้นฟูที่ถูกต้อง ครบถ้วน ทันเวลา เช่นเดียวกับประชาชนในเขตเมือง โดยได้มอบหมายให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พัฒนางานห้องปฏิบัติการทางพยาธิวิทยาคลินิก ให้มีการพัฒนาระบบบริหารคุณภาพตามมาตรฐานสากลISO 15189 ปี2012 เพื่อให้สามารถตรวจวินิจฉัย ติดตามผลการรักษา ประเมินสุขภาพ ควบคุมและป้องกันโรค ให้ผู้รับบริการมั่นใจว่าผลการวิเคราะห์และการบริการของห้องปฏิบัติการถูกต้องตามหลักวิชาการ แม่นยำ รวดเร็วและน่าเชื่อถือแพทย์สามารถนำไปวินิจฉัยโรคและวางแผนการรักษา  ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

            อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวอีกว่า ส่วนการพัฒนางานเวชกรรมฟื้นฟู ได้มอบหมายให้กรมการแพทย์ โดยศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ ถ่ายทอดองค์ความรู้เทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อสนับสนุนการพัฒนางานด้านเวชกรรมฟื้นฟู ตลอดจนการฝึกปฏิบัติให้แก่บุคลากรของโรงพยาบาล เพื่อหาแนวทางการพัฒนามาตรฐานการให้บริการให้แก่คนพิการ ผู้สูงอายุและผู้ป่วยสามารถเข้าถึงบริการด้านการรักษาพยาบาลและการฟื้นฟูสมรรถภาพให้เกิดประโยชน์สูงสุด นอกจากนี้ในการปฏิบัติงานเชิงรุกโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชยังได้รับการสนับสนุนรถออกหน่วยบริการเคลื่อนที่พร้อมทั้งอุปกรณ์จากธนาคารออมสิน เพื่อใช้ในการลงพื้นที่ปฏิบัติงานห้องปฏิบัติการทางพยาธิวิทยาคลินิกและงานเวชกรรมฟื้นฟูให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อออกให้บริการเชิงรุกและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในพื้นที่ห่างไกล และท้องถิ่นทุรกันดาร ที่ไม่สามารถเดินทางมารับบริการที่โรงพยาบาลได้ ซึ่งการพัฒนาของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั้ง 21 แห่ง จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาโรงพยาบาลแห่งอื่นๆ ของกระทรวงสาธารณสุขเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประชาคมอาเซียน

           “ในปี 2554 กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได้รับมอบหมายงานพัฒนาห้องปฏิบัติการทางพยาธิวิทยาคลินิกให้แก่ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ของโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ในการพัฒนาระบบบริหารคุณภาพตามมาตรฐานสากล ISO 15189 ปี 2007   ต่อมาในปี 2557  เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฏราชกุมาร วันที่ 28 กรกฎาคม 2557  โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช  มูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้มีบันทึกปฏิญญาความร่วมมือในการสนับสนุนการพัฒนาระบบบริหารคุณภาพตามมาตรฐานสากลของเครือข่ายห้องปฏิบัติการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ซึ่งมุ่งมั่นจะพัฒนาขีดความสามารถไปสู่การเป็นที่พึ่งของชุมชนที่มีคุณภาพและมาตรฐานบริการ โดยมุ่งสู่การรับรองระบบบริหารคุณภาพมาตรฐานสากล ล่าสุด คือ ISO 15189 ปี 2012 และ ISO 15190 ปี 2003 เพื่อให้สามารถตรวจวินิจฉัย ติดตาม ผลการรักษา ประเมินสุขภาพ ควบคุมและป้องกันโรค ให้ผู้รับบริการมั่นใจว่าผลการวิเคราะห์และการบริการของห้องปฏิบัติการถูกต้อง แม่นยำ รวดเร็วและน่าเชื่อถือ แพทย์สามารถนำไปวินิจฉัยโรคและวางแผนการรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา การพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทุกแห่ง ด้วยความสำนึกที่จะถวายพ่อหลวงของพสกนิกรชาวไทย เพื่อแบ่งเบาภาระกิจของพระองค์ท่านแล้ว ยังเป็นการแสดงความจงรักภักดีเพื่อสนองพระราชปณิธานแด่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯสยามมกุฎราชกุมาร ในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ 63 พรรษา วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 นี้อีกด้วย” อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าว





************************************
ที่มา : http://www.moph.go.th/index.php