ผู้เขียน หัวข้อ: สธ. เตือนประชา​ชนในพื้นที่​ฝนตก-น้ำท่​วมขัง ระวัง “โรคฉี่หนู”  (อ่าน 1043 ครั้ง)

ออฟไลน์ Por-MedTech

  • Global Moderator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 1192
    • อีเมล์
สธ. เตือนประชา​ชนในพื้นที่​ฝนตก-น้ำท่​วมขัง ระวัง “โรคฉี่หนู” ปีนี้เสียชี​วิตแล้ว 10 ราย



                 กระทรวงสาธารณสุข เตือนประชาชนในพื้นที่ฝนตกหนัก น้ำท่วมขัง หรือน้ำป่าไหลหลาก ให้ระวังโรคฉี่หนู ปีนี้พบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 10 ราย มากสุดที่ภาคใต้ และอีสาน หากมีอาการไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ปวดตามกล้ามเนื้อมากโดยเฉพาะที่น่องโคนขาทั้ง 2 ข้าง ตาแดง ให้รีบพบแพทย์และแจ้งประวัติการลุยน้ำย่ำโคลน เพื่อรักษาให้รวดเร็ว ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง ชี้หากรักษาช้า โรครุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
                นายแพทย์อำนวย กาจีนะ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข รักษาราชการแทนปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ว่า โรคที่เป็นห่วงและพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนก็คือโรคฉี่หนู หรือโรคเลปโตสไปโรซีส (Leptospirosis)   สำนักระบาดวิทยารายงานสถานการณ์โรคฉี่หนู ตั้งแต่ 1 มกราคม 2558 - 17 กรกฎาคม 2558 ทั่วประเทศมีผู้ป่วยใน 55 จังหวัด รวม 662 ราย เสียชีวิต 10 ราย ใน 8 จังหวัด ได้แก่ อ่างทอง มหาสารคาม นครราชสีมา ศรีสะเกษ นครศรีธรรมราช นราธิวาส  พัทลุง และตรัง จังหวัดที่มีอัตราผู้ป่วยต่อแสนประชากรสูงสุด ได้แก่ระนอง ศรีสะเกษ  พังงา นครศรีธรรมราช กาฬสินธุ์ พบผู้ป่วยโรคนี้มากที่สุดในกลุ่มเกษตรกรเกือบร้อยละ 60 รองลงมาคืออาชีพรับจ้าง และนักเรียน ส่วนใหญ่อายุระหว่าง 44-64 ปี อายุต่ำสุดที่พบติดเชื้อคือ 1 ขวบ
               สำหรับอาการป่วยของโรคฉี่หนูที่เป็นลักษณะเฉพาะ มีดังนี้คือ มีไข้สูงทันทีทันใด ปวดศีรษะ ตาแดงทั้ง 2 ข้าง   ปวดกล้ามเนื้อมาก โดยเฉพาะที่น่อง โคนขาทั้ง 2 ข้าง อาการดังกล่าวบางครั้งประชาชนอาจชะล่าใจ คิดว่าเป็นไข้ทั่วไป หรือปวดเมื่อยจากการขนย้ายสิ่งของหนีน้ำ หากมีอาการป่วยและไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ขอให้รีบพบแพทย์ และแจ้งประวัติการลุยน้ำย่ำโคลนด้วยทุกครั้ง เพื่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว หากไปรับการรักษาล่าช้า อาจทำให้เชื้อลุกลามทำลายอวัยวะภายใน เช่น ไต ปอด อาการจะรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
               ด้านนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ในการป้องกันโรคดังกล่าว ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงการเดินลุยน้ำท่วมขัง โดยเฉพาะแอ่งน้ำขังเล็กๆ เนื่องจากปริมาณเชื้อฉี่หนูจะมีความเข้มข้นสูง รวมทั้งหลีกเลี่ยงการเดินย่ำโคลน พื้นดินชื้นแฉะ หากมีความจำเป็นต้องเดินลุย ควรสวมรองเท้าบู๊ทยางป้องกันไม่ให้เท้าสัมผัสน้ำหรือดิน รวมทั้งป้องกันสิ่งของมีคมทิ่มแทง และให้รีบชำระล้างทำความสะอาดหลังเดินย่ำน้ำย่ำโคลนแล้ว ทั้งนี้ขอให้ผู้ปกครองดูแลเด็กเล็กใกล้ชิด เนื่องจากเด็กยังไม่รู้จักวิธีการป้องกันตัวเอง และดูแลบ้านให้สะอาด กำจัดขยะและเศษอาหารให้ถูกวิธี โดยใส่ในถุงพลาสติกหรือในถังขยะที่มีฝาปิดมิดชิดเพื่อไม่ให้เป็นที่อาศัยหรือเป็นแหล่งอาหารของหนู
             โรคฉี่หนู เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในไตของหนูทุกชนิด เชื้อจะออกมากับฉี่ปนเปื้อนอยู่ในดินโคลน ชื้นแฉะ หรืออยู่ในแอ่งน้ำขังเล็กๆ มีชีวิตได้นานหลายวัน มีโอกาสติดต่อมาสู่คนได้ โดยไชเข้าทางบาดแผลหรือรอยถลอก รวมทั้งผิวหนังที่แช่น้ำเป็นเวลานาน จึงขอย้ำเตือนประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ฝนตกหนัก มีน้ำท่วมขัง หรือมีน้ำป่าไหลหลาก ขอให้หลีกเลี่ยงเดินลุยน้ำย่ำโคลน โดยเฉพาะผู้ที่มีบาดแผลหรือมีรอยถลอกที่บริเวณเท้าและขา ได้ให้สำนักงานสาธารณสุขทุกจังหวัด ประชาสัมพันธ์ให้ความรู้การป้องกันโรคแก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง โรคนี้มียารักษาหายขาด





**********************************************
ที่มา : http://www.moph.go.th/index.php