สวป.เมืองคอนใจเด็ด บุกจับแก๊งยานรก เจอควักระเบิดเอ็ม 67 ปาใส่ กระโดดเตะระเบิดหลุดจากมือ ก่อนจับกุมยกแก๊ง 3 คน มีทั้งตร.นอกแถว และลูกตร. พร้อมขาใหญ่ "ตั๊ก ทวดทอง" ยึดระเบิด ปืนคาร์บิน ลูกซองสั้น พร้อมกระสุนหลายชนิด...
เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 1 ก.ย. พ.ต.ท.ดร.ก่อเกียรติ ทองนุ่น สวป.สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ได้รับรายงานว่า มีการมั่วสุมยาเสพติดและซุกซ่อนอาวุธปืนหลายชนิดในบ้าน 2 ชั้น เลขที่ 3/5 ซอยทวดทองการช่าง ถนนกะโรม ต.โพธิ์เสด็จ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมเจ้าหน้าที่อีก 5 นาย เดินทางไปตรวจสอบ พบ นายปณิวัตร ช่วยเกลี้ยง อายุ 26 ปี เจ้าของบ้านเกิดเหตุ นายปฐมพงศ์ เหมรังสี หรือ “ปืน” อายุ 25 ปี บุตรชายของตำรวจนายหนึ่ง ซึ่งมีหมายจับในคดีค้ายาเสพติดอยู่ด้วย และ ด.ต.วุฒิชัย บุญฤทธิ์ อายุ 43 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันปราบปราม ทำหน้าที่สิบเวร สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช กำลังนั่งเสพยาบ้าและน้ำต้มพืชกระท่อม จึงเข้าทำการจับกุมทันที
โดยขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้าไปถึงภายในบ้าน นายปณิวัตร เจ้าของบ้านซึ่งอยู่ในอาการเมายาเสพติด ได้วิ่งออกมาขวาง พร้อมควักระเบิดชนิด เอ็ม 67 ออกมา พยายามจะถอดสลักเพื่อขว้างระเบิดใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.ท.ดร.ก่อเกียรติ ทองนุ่น จึงตัดสินใจวิ่งเข้าไปประชิด ก่อนใช้เท้าเตะอย่างแรง จนลูกระเบิดพลัดตกจากมือกระเด็นไปตกอยู่บนพื้น ก่อนที่ พ.ต.ท.ดร.ก่อเกียรติ และตำรวจทุกคน รวมทั้งผู้ต้องหาที่อยู่ในบ้านทั้ง 3 คน รีบหมอบราบลงกับพื้น เพราะเกรงจะระเบิดขึ้น แต่โชคดีที่ระเบิดไม่ทำงาน จากนั้น พ.ต.ท.ดร.ก่อเกียรติ จึงรีบลุกขึ้น และบุกเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เอาไว้ได้อย่างทุลักทุเล ก่อนจะวิทยุรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจมาสนับสนุนในที่เกิดเหตุ
หลังจากได้รับรายงาน พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ ขาวสำอางค์ ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.อนุชน ชามาตย์ รอง ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช, พ.ต.อ.เชาวศิลป์ บุญประดิษฐ์ ผกก.สส.ภ.จว.นครศรีธรรมราช และ พ.ต.อ.อดิศักดิ์ เทพวรรณ์ ผกก.สภ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาสมทบในที่เกิดเหตุ พร้อมประสาน พ.ต.ท.บวรศักดิ์ ทิพย์เดช สว.หัวหน้าชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดจาก กก.ตชด.42 พร้อมเจ้าหน้าที่ 5 นาย เดินทางมาตรวจสอบ และเก็บกู้ระเบิดลูกดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงระดมกำลังตรวจค้นภายในบ้าน พบอุปกรณ์การเสพยาบ้า 1 ชุด ยาบ้า 1 เม็ด น้ำต้มพืชกระท่อมใส่อยู่ในหม้อใบใหญ่ เหลือน้ำต้มพืชกระท่อมอยู่ในหม้อประมาณ 1.5 ลิตร อาวุธปืนลูกซองสั้น 1 กระบอก กระสุน 3 นัด อาวุธปืนคาร์บิน 1 กระบอก พร้อมกระสุน 24 นัด
พ.ต.ท.บวรศักดิ์ ทิพย์เดช กล่าวว่า ระเบิดลูกดังกล่าวเป็นระเบิดสังหารชนิด เอ็ม 67 นับเป็นระเบิดที่มีอานุภาพการทำลายล้างค่อนข้างรุนแรง โดยมีการใช้เทปกาวสีดำพันกระเดื่อง และสลักนิรภัยเอาไว้อย่างแน่นหนา โดยยังไม่ได้ถอดสลักนิรภัย สันนิษฐานว่า นายปณิวัตร เจ้าของบ้าน พยายามจะแกะเทปกาวออกเพื่อถอดสลักนิรภัยขว้างใส่เจ้าหน้าที่ จึงทำให้เสียเวลา พ.ต.ท.ดร.ก่อเกียรติ จึงฉวยโอกาสเข้าไปเตะมือนายปริวัตร อย่างแรง จนลูกระเบิดหลุดจากมือตกไปอยู่ที่พื้น โดยไม่มีการระเบิดขึ้นแต่อย่างใด แต่หาก นายปณิวัตร แกะเทปกาวและถอดสลักนิรภัยออกแล้ว ระเบิดจะทำงานภายใน 4-5 วินาที เชื่อว่า พ.ต.ท.ดร.ก่อเกียรติ และทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจรวมทั้งคนร้ายทั้ง 3 คนจะได้รับอันตรายแน่
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 คนพร้อมของกลางทั้งหมดไปสอบสวนที่โรงพัก โดย พล.ต.ต.เกียรติพงศ์ สั่งกำชับให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเฉียบขาด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากการตรวจสอบประวัติของ ด.ต.วุฒิชัย พบว่าในอดีตเป็นตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ตชด.ที่ 424 อ.สิชล และเคยถูกจับกุมในข้อหา กรรโชกทรัพย์ รีดเอาทรัพย์ เรียกค่าไถ่ ร่วมกับ ร.ต.อ.ณัฏฐ์ ชลนิธิวณิชย์ พร้อมตชด.อีกหลายนายที่ถูกให้ออกจากราชการ และถูกดำเนินคดี โดยหลายนายพ้นผิดได้กลับเข้ารับราชการตามเดิม รวมทั้ง ด.ต.วุฒิชัย บุญฤทธิ์ ต่อสู้คดีจนพ้นผิดและขอกลับเข้ารับราชการอีกครั้งเช่นกัน โดยได้ย้ายเข้าสังกัด สภ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ก่อนย้ายไป จ.ระนอง และเพิ่งย้ายกลับมาประจำ สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช
ด.ต.วุฒิชัย บุญฤทธิ์ กล่าวว่า ตนเคยป็นตำรวจตระเวนชายแดนประจำอยู่ชุดปราบปรามยาเสพติดมาโดยตลอด ซึ่งการถูกจับกุมในครั้งนี้ ตนขอปฏิเสธและขอยืนยันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการมั่วสุมเสพหรือค้ายาเสพติด รวมทั้งอาวุธปืนแต่อย่างใด ตนเดินทางมายังบ้านเกิดเหตุเพื่อช่วยเคลียร์ปัญหาความขัดแย้งให้บุตรชายของดาบตำรวจนายหนึ่ง ที่มีปัญหากับนายปณิวัตร ช่วยเกลี้ยง เจ้าของบ้านเกิดเหตุ และเพิ่งเดินเข้าไปในบ้าน นายปณิวัตร ไม่นานก็มี พ.ต.ท.ดร.ก่อเกียรติ พร้อมพวกบุกเข้าจับกุมพอดี ตนจึงซวยโดนจับกุมมาด้วย แต่ในขณะนี้ตนยังไม่ทราบว่าชุดจับกุมและพนักงานสอบสวนจะดำเนินคดีกับตนในข้อหาใดบ้าง ซึ่งตนให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ขณะที่ พ.ต.ท.ดร.ก่อเกียรติ กล่าวว่า ตนได้รับรายงานมานานแล้วว่า ที่บ้านหลังดังกล่าวมีการค้าและมั่วสุมยาเสพติด รวมทั้งมีอาวุธปืน อาวุธสงคราม ซุกซ่อนอยู่ในบ้านด้วย และล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 31 ส.ค.2558 ที่ผ่านมา ตนจับกุมคดีค้าและเสพยาเสพติดได้ผู้ต้องหา 5 คน ทั้งหมดให้การรับสารภาพว่าซื้อยาเสพติดมาจากบ้านนายปณิวัตร ตนพร้อมเจ้าหน้าที่จึงเดินทางไปตรวจสอบที่บ้านของนายปณิวัตร พบผู้ต้องหาทั้ง 3 คนกำลังมั่วสุมเสพยาบ้าและน้ำต้มพืชกระท่อมอยู่ในภายในบ้าน จึงบุกเข้าจับกุม.
ที่มา
http://www.thairath.co.th/
