ผู้เขียน หัวข้อ: หมายเรียก ‘เป๊ก-สัณชัย’ รับ‘ข้อหา’  (อ่าน 979 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์
หมายเรียก ‘เป๊ก-สัณชัย’ รับ‘ข้อหา’
« เมื่อ: ตุลาคม 13, 2015, 02:07:59 pm »


รอหลักฐาน ปากคำพยาน ‘จักรทิพย์’ชี้ ในสังคมรู้ดี

ตำรวจจ่อออกหมายเรียกเป๊ก-สัณชัย เองตระกูล ไฮโซหนุ่มสามีนักแสดงสาวชื่อดัง ธัญญ่า-ธัญญาเรศ เมาใช้มือตบหน้าหมอหนุ่มกลางงานแต่ง เร่งรวบรวมหลักฐานจากภาพวงจรปิดในที่เกิดเหตุมัด สอบเพิ่มเติมข้อหาพยายามฆ่า หลังคำให้การผู้เสียหายไม่ชัดเจน “บิ๊กแป๊ะ” ลั่นตำรวจให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย เผยทุกคนในสังคมรู้ดี

จากกรณี พ.ต.ท.นพ.ปิยพงษ์ สุตสาครเย็น อายุ 40 ปี นายแพทย์ สบ 3 กลุ่มงานตรวจพิสูจน์หลักฐานเกี่ยวกับบุคคล สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.เทิดสยาม บุญยะเสนา พงส.ผนพ.สภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ภายหลังถูก ร.ท.สัณชัย เองตระกูล หรือ เป๊ก สามีธัญญ่า-ธัญญาเรศ รามณรงค์ นักแสดงสาวชื่อดัง เมาแล้วตบหน้าภายในงานแต่งงานของ นายวุฒิชัย ใจสมัคร หนึ่งในเจ้าของร้านวอร์มอัพ ผับชื่อดัง จ.เชียงใหม่ จัดขึ้นภายในห้องประชุมโรงแรมสวนทวีชล ต.เชิงดอย อ.ดอยสะเก็ด เมื่อ

วันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ก่อนเรียกออกไปเคลียร์นอกงาน แต่ลูกน้องทำท่าชักปืนขู่ พอชวนถ่ายรูปกลับชูนิ้วกลางแสดงท่าทีดูหมิ่น โดยแจ้งข้อหาทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่าเป็นเหตุให้ได้รับความเสียหาย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 12 ต.ค. ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ พล.ต.ต.มนตรี สัมบุณ-ณานนท์ ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วย พ.ต.อ. ธีรพล อินทรลิบ รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ และ พ.ต.อ.นันทิศักดิ์ วรรณ์ยางค์กูร ผกก.สภ.ดอยสะเก็ด ร่วมประชุมหารือในการรวบรวมพยานหลักฐาน

พล.ต.ต.มนตรีเปิดเผยภายหลังการประชุมว่า มอบหมายให้ พ.ต.อ.ธีรพลรับผิดชอบในคดี ให้เข้าไปคุมสำนวนการสอบสวน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้เรียกพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีนำสำนวนการสอบสวนมาตรวจสอบพบว่ายังมีเรื่องที่จะต้องดำเนินการหลายเรื่อง รวมถึงในเรื่องของตัวผู้ต้องหาที่ระบุว่ามียศ ร.ท. จะต้องมีการตรวจสอบสถานภาพว่าปัจจุบันยังเป็นนายทหารประจำการ หรือนอกประจำการเพราะจะมีผลต่อเขตอำนาจศาล

ส่วนการแจ้งข้อหามีเรื่องของการทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า พล.ต.ต.มนตรีกล่าวว่า จะต้องมีการสอบถามคำพยานให้ชัดเจน ประจักษ์พยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุให้ครบถ้วนว่าในข้อหาพยายามฆ่ามีหลักฐานอะไรบ้าง เพราะจากคำให้การของผู้กล่าวหายังไม่ชัดเจน ทั้งนี้ พ.ต.อ.ธีรพลสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบเพิ่มเติมในส่วนนี้ และการรวบรวมพยานหลักฐานคงต้องใช้ทั้งใบรับรองแพทย์ที่โรงพยาบาลที่ผู้เสียหายไปรับการตรวจมาประกอบ เพื่อจะพิจารณาว่าได้รับบาดเจ็บมากน้อยแค่ไหน ในส่วนของภาพในงาน ภาพวงจรปิด ภาพวีดิโอ จะขอความร่วมมือจากเจ้าของงานแต่งรวบรวมเอามาให้พนักงานสอบสวนใช้ในการพิจารณา อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้รวบรวมพยานหลักฐานแล้วจะออกหมายเรียกผู้ต้องหามารับทราบข้อหา เพราะในเบื้องต้นผู้ต้องหามีที่อยู่ถิ่นฐานแน่นอนก็ต้องออกหมายเรียกก่อน เรื่องนี้สังคมโดยทั่วไปให้ความสนใจต้องว่ากันไปตามข้อเท็จจริง

เมื่อถามว่า อัตราโทษในคดีนี้มีมากหรือไม่ พล.ต.ต.มนตรีเปิดเผยว่า การทำร้ายร่างกายมีหลายระดับอัตราโทษต่างกัน ส่วนเรื่องแจ้งพยายามฆ่า ก็ต้องดูว่ามีการชักอาวุธปืนออกมาข่มขู่หรือไม่ อย่างไรก็ตาม จะประสานให้ทั้งคู่มาให้ปากคำพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม ส่วนเรื่องผู้เสียหายเป็นตำรวจจะมีการช่วยเหลือกัน เรื่องนี้ขอบอกว่าสังคมตรวจสอบและจับตาดูอยู่ เรื่องนี้จะทำความจริงให้ปรากฏและให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย

พ.ต.อ.ธีรพล อินทรลิบ รอง ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ร.ท.สัณชัยยังไม่มีการติดต่อเข้ามา เรื่องนี้เป็นคดีที่ยอมความกันไม่ได้ ทั้งทำร้ายร่างกายและพยายามฆ่า แม้การทำร้ายร่างกายมีบาดแผลเล็กน้อยก็ยอมความไม่ได้ เพราะดำเนินคดีไปมีพยานหลักฐานผิดถึงขั้นไหนก็แจ้งข้อหาไปตามนั้น

วันเดียวกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า ทราบเรื่องจากข่าว แต่ยังไม่ทราบรายละเอียดชัดเจน มีที่มาที่ไปเป็นอย่างไร เชื่อว่าทุกคนในสังคมรู้ดีอยู่แล้วว่า ร.ท.สัญชัย เองตระกูล เป็นคนอย่างไร รู้เท่ากับที่ทุกคนรู้ สำหรับคดีนี้พนักงานสอบสวนจะต้องเรียกทั้งสองฝ่ายมาสอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อประกอบคดีและหาข้อเท็จจริงโดยให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของเลขาธิการ ป.ป.ท. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาของ ร.ท.สัญชัย เองตระกูล ที่จะต้องไปตรวจสอบเกี่ยวกับพฤติกรรม ส่วนจะมีการโยกย้ายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผู้บังคับบัญชา ตนจะไม่เข้าไปยุ่งในรายละเอียด ไม่ได้สั่งการอะไรเพิ่มเติม อย่างไรก็ตามไม่อยากให้มองถึงอดีตว่า ร.ท.สัญชัยเป็นอย่างไรหรือมีพฤติกรรมอย่างไร อยากให้มองปัจจุบันมากกว่า คาดว่าอีก 2-3 วัน เลขาธิการ ป.ป.ท.จะมีหนังสือรายงานเรื่องดังกล่าวให้ทราบ





ที่มา http://www.thairath.co.th/