ผู้เขียน หัวข้อ: ลุยตรวจโอเกะเมืองหนองคาย ชาวบ้านร้อง เสียงดังยามวิกาล  (อ่าน 1001 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์


ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย สั่งตรวจค้น คาราโอเกะ ใน อ.เมือง หลังชาวบ้านร้องส่งเสียงดังยามวิกาล จับ 3 ชาวลาว ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต-เข้าเมืองผิด ก.ม. เตรียมเรียกเจ้าของสอบ ...

เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 23 พ.ย. 58 นายสุชาติ นพวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย ได้สั่งการ นายโสภณ ห่วงญาติ นายอำเภอเมืองหนองคาย ให้จับกุมร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่ง ที่บ้านหนองผือ ต.พรธาตุบังพวน อ.เมืองหนองคาย เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่า ส่งเสียงดังในยามวิกาล จึงมอบหมายให้ นายยรรยง พรมศรี นายสมปอง เที่ยงมนต์ ปลัดอำเภอเมืองหนองคาย ร.อ.จำนงค์ แสงกุดเรือ นายทหารยุทธการ กองกำลังรักษาความสงบประจำจังหวัดหนองคาย จ.ส.อ.พิเชษฐ์ เชิดชัยภูมิ พ.ต.ท.เรืองยศ ภูแช่มโชติ รอง ผกก.ป.สภ.เมืองหนองคาย พร้อมกำลังทหาร ตำรวจ สภ.เมืองหนองคาย ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดหนองคาย และ อส.จ.หนองคาย จำนวนหนึ่ง เข้าตรวจสอบ

เมื่อไปถึงที่ร้านคาราโอเกะดังกล่าว พบกำลังเปิดเพลงตู้คาราโอเกะเสียงดัง และให้บริการลูกค้าอยู่ตามปกติ ภายในร้านมีหญิงสาว 4 คน และ ชาย 1 คน เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้วิ่งหลบหนี แต่สามารถจับกุมตัวไว้ได้ 3 คน เป็นหญิง 2 ราย และชาย 1 ราย ซึ่งทั้ง 3 คน เป็นชาวลาว จึงควบคุมตัวไว้ พร้อมอายัดตู้คาราโอเกะ 1 ตู้ เงินเหรียญภายในตู้ จำนวน 2,635 บาท สมุดเลือกเพลง 1 เล่ม บิลเงินสด 1 เล่ม ไมค์พร้อมเครื่องรับสัญญาณ 1 ชุด เป็นหลักฐาน

จากการสอบสวน 2 สาวลาว ให้การรับสารภาพ ว่า เข้ามาใน จ.หนองคาย อย่างถูกต้อง และมาทำงานที่ร้านดังกล่าว โดยมี นายไกรสร หรือ เต่ง คะดิษฐ์ อายุ 30 ปี เป็นนายจ้าง โดยได้ค่าจ้างวันละ 100 บาท และได้ค่านั่งดริงก์ๆ ละ 20 บาท ส่วนชายชาวลาวทำหน้าที่ในการแลกเหรียญ สำหรับหยอดตู้เพลงคาราโอเกะ โดยพวกตนได้เข้ามาทำงานที่ร้านแห่งนี้เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งจากการตรวจสอบเอกสารพบว่า 2 สาวลาว มีหนังสือถูกต้องตามกฎหมาย จึงแจ้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวเข้ามาทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนชายชาวลาว ไม่มีเอกสาร จึงแจ้งข้อหา หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา ก่อนควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งมอบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองหนองคาย และจะได้ติดตามตัวเจ้าของร้านคาราโอเกะมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.





ที่มา http://www.thairath.co.th/