ในกทม.‘ประจิน’คุมเอง ทดสอบระบบรปภ.-จร. ใช้ตร.-ทหาร3หมื่นนาย
หลายพื้นที่ทั่วประเทศพร้อมใจซักซ้อมการร่วมกิจกรรม “ปั่นเพื่อพ่อ Bike for Dad” ส่วนใน กทม. “ประจิน” รองนายกรัฐมนตรี นำ ทีมซ้อมปั่นเพื่อพ่อ ทดสอบระบบการรักษาความปลอดภัยและการจัดการจราจร ใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารกว่า 3 หมื่นนาย ขณะ ที่ “มท.1” ชี้ความยากอยู่ที่ปั่นขึ้นสะพาน ฝากนักปั่นฝึกซ้อมให้ดี ส่วนการรับเสื้อและสิ่งของพระราชทาน สองวันผ่านฉลุย
คนไทยเริ่มซักซ้อมปั่นจักรยานในสถานที่จริงสำหรับกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ “ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD” โดยเมื่อวันที่ 29 พ.ย.เวลา 06.00 น. ที่แยกพระบรมรูปทรงม้า ถนนศรีอยุธยา พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รวมถึงข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชน ร่วมซักซ้อมปั่นจักรยานเสมือนจริงในกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวาคม ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD
สำหรับการจัดรูปขบวนแบ่งเป็น 4 ขบวน คือ ขบวน A, B, C และ D โดยเริ่มบริเวณลานพระราชวังดุสิต-ถนนศรีอยุธยา-ขวาแยกมักกะสัน-ถนนราชปรารภ-ผ่านแยกประตูน้ำ-แยกราชประสงค์-เลี้ยวขวาเข้าถนนพระราม 1-แยกปทุมวัน-ซ้ายเข้าถนนพญาไท (พักที่ ม.จุฬาฯ ประมาณ 30 นาที)-ถนนพญาไท-ผ่านแยกสามย่าน-ซ้ายเข้าถนนพระราม 4-ผ่านแยกอังรีดูนังต์-ขวาแยกศาลาแดงเข้าถนนสีลม-วิ่งสีลมตลอดสาย-ขวาแยกบางรัก-ถนนเจริญกรุงตลอดสาย-วงเวียนโอเดียน-ถนนเยาวราช-ผ่านแยกราชวงศ์-เลี้ยวซ้ายแยกวัดตึก-เข้าถนนจักรวรรดิ-ขึ้นสะพานประปกเกล้า-แยกบ้านแขก-วนรอบวงเวียนใหญ่-ไปเข้าถนนอรุณ–อัมรินทร์-ขึ้นสะพานข้ามคลองบางกอกใหญ่-(แวะพักที่พระราชวังเดิม 30 นาที) ถนนอรุณอัมรินทร์-แยกศิริราช-ขึ้นสะพานอรุณอัมรินทร์-แยกอรุณ–อัมรินทร์ ตรงไปขึ้นสะพานพระราม 8-ลงแยกวิสุทธิกษัตริย์-ถนนวิสุทธิกษัตริย์-แยก จปร.-ถนนราชดำเนินนอก-ลานพระราชวังดุสิต รวมระยะทาง 29 กิโลเมตร ใช้เวลาซ้อมปั่นประมาณ 45 นาที เป็นไปด้วยดี มีการจำลองสถานการณ์ต่างๆให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานแก้ไขปัญหาโดยไม่พบอุปสรรคแต่อย่างใด
ต่อมา พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร.กล่าวถึงการรักษาความปลอดภัยในกิจกรรมปั่นจักรยานฯ ว่าเน้นความเข้มงวดของเจ้าหน้าที่เป็นหลัก โดยวางกำลังทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร กว่า 30,000 นาย คาดว่าในวันที่ 6 ธ.ค. พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก จะซ้อมปั่นจักรยานอีกครั้ง ขณะเดียวกันเชื่อว่าการจัดกิจกรรมในวันที่ 11 ธ.ค.นี้ ที่ไม่ได้ประกาศเป็นวันหยุดราชการ จะไม่ส่งผลต่อการจราจรอย่างแน่นอน โดยจะปิดการจราจรเป็นช่วงๆ ที่ขบวนจักรยานจะปั่นผ่าน ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า การปั่นในครั้งนี้ ความยากอยู่ที่ต้องขึ้นสะพานหลายจุด อยากฝากให้ประชาชนซักซ้อมปั่นจักรยานขึ้นสะพานให้มากขึ้น การซ้อมครั้งนี้ไม่พบปัญหาแต่อย่างใด ทุกฝ่ายให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และคิดว่าในวันจริงจะใช้เวลาในการปั่นจักรยานไม่นานนัก สำหรับการจราจรมีเจ้าหน้าที่ควบคุมดูแลทั้งในและนอกขบวน รวมถึงเจ้าหน้าที่ชูป้ายบอกตลอดเส้นทาง
ด้าน พ.ต.ท.ปราโมทย์ จันทร์บุญแก้ว สว.สส.สน.บุปผาราม ที่ลงพื้นที่ควบคุมสั่งการ ศปก. BIKE FOR DAD ในวันซ้อมใหญ่ ร่วมกับทหารสังกัด พล.ร.9 ชุดถอดทำลายวัตถุระเบิด นาวิกโยธิน ทร. และชุดเก็บกู้และตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิด บก.สปพ.บช.น.โดยศูนย์ปฏิบัติการในความรับผิดชอบของ บก.น.8 แบ่งเป็นของ สน.บุปผาราม 3 แห่ง และ สน.สำเหร่ 1 แห่ง ประกอบด้วย ที่ทำการศึกษานารี ที่ทำการวัดพิชัยญาติ ที่ทำการถนนลาดหญ้า และที่ทำการแยกตากสิน กล่าวว่า การซ้อมใหญ่วันนี้มีการจำลองสถานการณ์ต่างๆที่อาจเป็นอุปสรรคและสามารถเกิดขึ้นได้ในวันจริง ทั้งการเกิดอุบัติเหตุหรือการแก้ไขปัญหาหลังรับแจ้งตรวจสอบวัตถุต้องสงสัย ทั้งหมดสามารถแก้ไขปัญหาให้ผ่านลุล่วงไปได้ โดยเฉพาะการใช้กล้องวงจรปิดเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตแบบเป็นเครือข่ายที่วางระบบมาเพื่อรักษาความปลอดภัยในงานสามารถจับภาพคนร้ายสมมติ และรถ จยย.ที่ใช้เป็นยานพาหนะนำกระเป๋าต้องสงสัยมาวางไว้บริเวณจุดจำลองเหตุการณ์ บนถนนประชาธิปกได้อย่างชัดเจนในส่วนภูมิภาค หลายจังหวัดจัดให้ซ้อมปั่นจักรยานเช่นกัน โดยที่ลานหน้าหอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ ต.แม่เ***ยะ อ.เมืองเชียงใหม่ ช่วงเช้าตรู่ นายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผวจ.เชียงใหม่ ปล่อยขบวนนักปั่นจำนวน 109 คัน “ปั่นเทิดพระเกียรติ 88 พรรษาราชาของแผ่นดิน ร่วมปั่น รักษ์ป่ารักษ์น้ำ สานงานต่อตามรอยพ่อ” ออกจาก จ.เชียงใหม่ มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ใช้เส้นทางผ่าน จ.ลำพูน จ.ลำปาง จ.อุตรดิตถ์ จ.พิษณุโลก จ.พิจิตร จ.นครสวรรค์ จ.ชัยนาท จ.อุทัยธานี จ.สุพรรณบุรี จ.ปทุมธานี สู่บริเวณพิธีท้องสนามหลวง เป็นเวลา 6 วัน รวมระยะทาง 838 กม. จากนั้นช่วงบ่าย ผวจ.เชียงใหม่ นำนักปั่นกว่า 2,000 คนร่วมซ้อมปั่นเพื่อพ่อต่อไป
ที่ถนนหน้าศาลากลางจังหวัดกาฬสินธุ์ นายวินัย วิทยานุกูล ผวจ.กาฬสินธุ์ นำประชาชนร่วม 400 คน ซ้อมใหญ่ปั่นเพื่อพ่อ จากจุดเริ่มต้น ศาลากลางจังหวัด ผ่านหน้าจวนผู้ว่าฯไปวงเวียนน้ำพุ ผ่านอนุสาวรีย์พระยาชัยสุนทร ไปวัดกลาง (พระอารามหลวง) ศาลหลักเมือง วัดใต้ ไปตามถนนกาฬสินธุ์-ขอนแก่น-สารคาม ถึงแยกโนนตาล (ใบเสมา) เลี้ยวซ้ายไปตามถนนเลี่ยงเมือง ฯลฯ กระทั่งวนกลับผ่านหลังจวนผู้ว่าฯ ถึงวงเวียนน้ำพุ จ.อำนาจเจริญ นายยิ่งยศ ธนะจันทร์ ผวจ.อำนาจเจริญ เป็นประธานปล่อยขบวนจักรยานทางไกลเทิดไท้องค์ราชันย์ เฉลิมพระเกียรติ 5 ธันวามหาราช อำนาจเจริญ-กรุงเทพฯ ณ บริเวณมุขหน้าศาลากลางจังหวัดอำนาจเจริญ จากนั้นปั่นนำขบวนจักรยานไปกราบนมัสการขอพรจากพระมงคลมิ่งเมือง พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองก่อนส่งคณะปั่นจักรยานทางไกลเดินทางสู่กรุงเทพฯ โดยจะปั่นไปสมทบกับขบวนจักรยานของ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ และบุรีรัมย์ จนได้นักปั่นจักรยานครบ 100 คน มุ่งหน้าสู่ลานพระบรมรูปทรงม้า กทม.
ส่วนที่ลานอเนกประสงค์ สนามกีฬามหาราช อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส นายสิทธิชัย ศักดา ผวจ.นราธิวาส เป็นประธานเปิดกิจกรรม “โก-ลก ชวนปั่นจักรยาน ตามรอยพ่อ” เพื่อเตรียมความพร้อมในการปั่นจักรยานตามโครง การ “BIKE FOR DAD” มีประชาชนชาว อ.สุไหงโก-ลก นำจักรยานกว่า 1,000 คันร่วมปั่นไปตามเส้นทางถนนภายในเขตเทศบาลเมืองสุไหงโก-ลก แล้วมุ่งหน้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ อาทิ ป่าพรุสิรินธร ฟาร์มตัวอย่างบ้านไร่ใหญ่ แล้วไปจดที่โครงการฟื้นฟูนาร้างปากล่อ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส รวมระยะทาง 42 กิโลเมตร โดยมีทหารคอย รปภ. ตลอดเส้นทาง เช่นเดียวกับ จ.พังงา นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า เป็นประธานซ้อมปั่น มีประชาชนนำจักรยานกว่า 1,200 คัน เข้าร่วมขบวน เริ่มจากหน้าสำนักงานเทศบาลตะกั่วป่า เลี้ยวซ้ายไปตลาดบางม่วง เข้าหมู่บ้านบางมรวน ไปตลาดเก่า เลี้ยวขวาไปกลับตัว เข้าบ้านบางลาน เลี้ยวซ้ายเข้าสวนทุ่งพระโพธิ์ กลับมาตลาดเก่า ออกไปเข้าสะพานเหล็กอายุกว่า 100 ปี ออกมาลานพระนารายณ์ รวมระยะทางกว่า 39 กม.
ที่บริเวณลานสมเด็จย่า 100 ปี นายสุเทพ แก้วประดิษฐ์ นายอำเภอทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช จัดกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อมีผู้มาลงทะเบียนรวม 500 คัน ในจำนวนนี้มีนายสมบูรณ์ พลพิชัย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 92/1 หมู่ 7 ต.ทุ่งใหญ่ อ.ทุ่งใหญ่ ที่พิการขาด้านซ้ายอ่อนแรงขยับเขยื้อนได้เล็กน้อยเข้าร่วมด้วย นายสุเทพ จึงจัดหารถจักรยานมามอบให้ 1 คัน เพื่อร่วมปั่นในครั้งนี้ สร้างความดีใจให้กับนายสมบูรณ์อย่างมาก จากนั้นขบวนรถจักรยานทยอยออกสู่ท้องถนนจากลานสมเด็จย่า 100 ปี ปั่นไปตามเส้นทางถนนสายทุ่งใหญ่-เขาพนมเข้าทางหมู่บ้านทะเลสองห้องไปสิ้นสุดที่เขื่อนน้ำบ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 3 รวมระยะทางกว่า 35 กม.
ที่ จ.สระบุรี นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.สระบุรี ร่วมกับพลตรีอัศวิน บุญธรรมเจริญ ผบ.มณฑลทหารบกที่ 18 นำข้าราชการ ประชาชน นักศึกษานานาชาติเอเชียแปซิฟิก 39 ประเทศ จากมหาวิทยาลัยนานาชาติเอเชียแปซิฟิก ร่วมซ้อมปั่นเพื่อพ่อ “BIKE FOR DAD” จุดเริ่มต้นบริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัด ปั่นไปตามเส้นทางถนนพหลโยธิน สู่ศาลากลางจังหวัดสระบุรี รวมระยะทาง 29 กม.
สำหรับบรรยากาศวันที่สองในการรับสิ่งของพระราชทานของผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมจักรยานเฉลิมพระเกียรติฯ “ปั่นเพื่อพ่อ BIKE FOR DAD” ที่สนามศุภชลาศัย ถนนพระราม 1 กทม. ผู้สื่อข่าวรายงานตั้งแต่เวลา 08.00 น. มีประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เดินทางมารับเสื้อสิ่งของพระราชทานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในวันที่สองเป็นหมายเลข 50,001-99,999 โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารกองบัญชาการกองทัพไทย กองทัพอากาศ และกรมพลศึกษา คอยอำนวยความสะดวก ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ซึ่งการรับเสื้อเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและไหลลื่น ประชาชนเมื่อได้รับเสื้อไปแล้ว ต่างนำเสื้อออกจากห่อ มาถ่ายรูปตัวเองตามมุมต่างๆ กันอย่างคึกคัก โดยเฉพาะบริเวณหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทั้งนี้ นายไพฑูรย์ เสาวลักษณ์สิริโสภา อายุ 38 ปี เปิดเผยว่า ปลื้มปีติเป็นอย่างมากที่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมปั่นเพื่อพ่อ เพราะตอนปั่นเพื่อแม่ ตนติดงาน ครั้งนี้หากไม่ได้มามีส่วนร่วมคงต้องนอนร้องไห้ไปหลายวันทีเดียว
จากนั้นเวลา 09.00 น. พล.อ.สมหมาย เกาฏีระ ผบ.ทหารสูงสุด เดินทางมาตรวจความเรียบร้อยการรับเสื้อและสิ่งของพระราชทาน จากนั้นก็กล่าวว่า ภาพรวมการจัดงาน 2 วัน เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนที่เดินทางมารับเสื้อและสิ่งของพระราชทานต่างรู้สึกพึงพอใจในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทหารที่คอยอำนวยความสะดวก ทำให้ขั้นตอนการรับเกิดความรวดเร็ว รวมถึงยังได้รับอาหารพระราชทานด้วย ทำให้ประชาชนล้วนมีความสุข สำหรับผู้ที่ไม่สะดวกเดินทางมารับในวันนี้ สามารถไปรับเสื้อและสิ่งของพระราชทานได้ที่หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา แขวงทุ่งสีกัน เขตดอนเมือง กทม. ในช่วงเวลาราชการ
ต่อมาเวลา 16.00 น. พล.ร.ต.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมพิธีรับมอบสิ่งของพระราชทานทั้งสองวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ประชาชนมาตามที่ตั้งเป้าไว้ ส่วนที่ไม่ได้มานั้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังรวบรวมข้อมูลอยู่ ประชาชนไม่ต้องกังวลใดๆ แล้วจะแจ้งรายละเอียดถึงวันเวลาและสถานที่ที่ต้องมารับของพระราชทานผ่านสื่อมวลชนต่อไป
ที่มา
http://www.thairath.co.th/