ผู้เขียน หัวข้อ: รุ่นพี่ขอโทษ ยันไม่ได้รับน้องโหดอย่างที่คิด - วิทยาลัยฯเร่งตรวจสอบ  (อ่าน 1006 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์


เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กระหึ่มในโลกโซเชียล หลังจากที่แฟนเพจเฟซบุ๊กชื่อดังอย่าง Youlike (คลิปเด็ด) ได้ออกมาโพสต์ภาพการรับน้องของวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งหนึ่ง ซึ่งในภาพเป็นลักษณะการรับน้องที่ทะเล และมีการจุดไฟเผารุ่นน้องขณะเปลือยผ้า พร้อมกับภาพรุ่นน้องที่นั่งร้องไห้และแผลเป็นตามตัว นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโอกิจกรรมรับน้องที่เล่นเกมอมสิ่งของส่งต่อกันทางปาก ทำให้ชาวเน็ตเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสม
ขณะที่ด้านสมาชิกเฟซบุ๊กผู้โพสต์ภาพและคลิปวิดีโอดังกล่าว ได้เผยกับสายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ถึงเรืื่องราวทั้งหมดว่า ตัวผมเองเป็นศิษย์เก่าที่ไปช่วยดูแลกิจกรรมรับน้องทุกปี โดยกิจกรรมนี้เป็นการรับน้องธรรมดา ไปเที่ยวทะเลที่จังหวัดประจวบศีรีขันธ์ โดยตนอยากจะชี้แจงว่า ภาพและข่าวที่ออกไปไม่เป็นความจริง กรณีที่จุดไฟขณะเปลือยผ้านั้น เป็นแค่การถอดเสื้อผ้าเล่นน้ำทะเลกันตามปกติ และเป็นจังหวะที่ภาพถ่ายโฟกัสตอนไฟกำลังพ่นออกมาพอดี ซึ่งยืนยันได้ว่ามีการจุดไฟจริง แต่แป๊ปเดียวเท่านั้น และไม่มีการโดนร่างกายของรุ่นน้องหรือเกิดบาดแผลตามตัวเลย ส่วนแผลเป็นที่เห็นคิดว่าน่าจะเกิดจากอย่างอื่น กรณีภาพที่รุ่นน้องร้องไห้นั้น เนื่องจากมีพิธีผูกสายสิญจน์ ผูกข้อไม้ข้อมือระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้องที่เข้ามาใหม่ ซึ่งเป็นช่วงเวลาซาบซึ้งและร้องไห้กับคำพูดที่อวยพรให้กับรุ่นน้องว่า "ตั้งใจเรียนนะ อยู่กับเราไปนานๆ ต้องจบพร้อมๆกัน" ซึ่งน้องไม่ได้ร้องไห้จากการถูกรุ่นพี่ทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด ส่วนเรื่องคลิปวิดีโอที่เป็นกิจกรรมรับน้องให้อมสิ่งของส่งต่อกัน กิจกรรมนี้เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมานานแล้ว และมีการปฏิบัติแบบนี้ทุกปี เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์กันเท่านั้น พร้อมทั้งกล่าว ขอโทษสังคมและสถาบันที่ทำให้เสียหาย หลังมีรูปภาพเหล่านี้เกิดขึ้นมา ด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่คิดว่าจะเรื่องใหญ่โตขนาดนี้ ขอยืนยันได้ว่า ไม่มีการรับน้องรุนแรง "ผมเด็กช่างกล ไม่มีพูดปด"

ขณะที่ด้านสายตรวจโซเชียล ไทยรัฐออนไลน์ ได้ติดต่อไปยัง วิทยาลัยเทคโนโลยีดังกล่าว โดยทางด้าน เลขาฯ รองผู้อำนวยการฝ่ายกิจการนักศึกษาได้บอกเพียงสั้นๆว่า ขณะนี้ทางวิทยาลัยฯได้รับเรื่องไว้แล้ว กำลังดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ และจะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป





ที่มา http://www.thairath.co.th/