ผู้เขียน หัวข้อ: ชมรม ผอ.รพ.สต.ยันเดินหน้า 29 ม.ค.ชี้เข้าใจข้อจำกัด สธ.ขอผู้บริหารรับฟังคนปฐมภูมิ  (อ่าน 514 ครั้ง)

ออฟไลน์ Por-MedTech

  • Global Moderator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 1192
    • อีเมล์
ชมรม ผอ.รพ.สต.ยันเดินหน้า 29 ม.ค.ชี้เข้าใจข้อจำกัด สธ.แต่ขอผู้บริหารรับฟังคนปฐมภูมิ


                ประธานชมรม ผอ.รพ.สต.ยันเข้าพบ นายกฯ 29 ม.ค.นี้ช่วงเช้า ก่อนไป สนช.และ สปท.ต่อ ส่วนช่วงบ่ายพบ รมว.และปลัด สธ.ตามที่นัดหมายไว้ ชี้ไม่มีการเมือง พร้อมระบุเข้าใจข้อจำกัดการบริหารของ สธ.และตระหนักดีว่าปลัด สธ.เพิ่งทำหน้าที่ได้ 3 เดือน แต่ปัญหาชาวปฐมภูมิสะสมมาหลายสิบปี ไม่ได้มีแค่เรื่องโครงสร้าง แต่ยังมีปัญหาการทำงาน การมอบอำนาจและสั่งการ ข้อจำกัดการขึ้นตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.ที่ติดล็อคด้วยเงื่อนไข ก.พ.และ คปร.ขอผู้บริหาร สธ.หนุนรับฟังปัญหาจากชาว รพ.สต.เพื่อการแก้ไขอย่างถูกต้อง

              นายสมศักดิ์ จึงตระกูล ประธานชมรม ผอ.รพ.สต. (ประเทศไทย) กล่าวถึงกรณีการนัดรวมตัวกันของ รพ.สต.ในวันที่ 29 ม.ค.นี้ ว่า ภายหลังจากที่ นพ.โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้โพสต์ Facebook ชี้แจงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวและขอร้องไม่ให้มีการเคลื่อนไหวในวันที่ 29 ม.ค.นั้น ทางชมรม ผอ.รพ.สต.ขอเรียนว่า พวกเราทั้ง 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ เข้าใจข้อจำกัดทางการบริหารของ สธ.และตระหนักดีว่า นพ.โสภณ เพิ่งเข้ามาบริหารในตำแหน่งปลัด สธ.ได้เพียง 3 เดือน แต่ปัญหาเรื่องบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิของไทยนั้นสะสมมาหลายสิบปี ไม่ได้มีแค่เรื่องโครงสร้างการทำงานเท่านั้น จึงต้องแก้อย่างเป็นระบบด้วยการปฏิรูป ดังนั้นยังคงยืนยันว่า ขอนำคณะ ผอ.รพ.สต.และนักสาธารณสุขชุมชนเข้าพบ ท่าน รมว.สาธารณสุข และท่านปลัดสาธารณสุข ในวันที่ 29 ม.ค.นี้ ในช่วงบ่ายที่ได้แจ้งให้ทราบและได้ทำหนังสือนัดหมายอย่างเป็นทางการไว้แล้ว และในช่วงเช้าก็จะไปพบ นายกรัฐมนตรี สนช.และ สปท.ซึ่งได้ทำหนังสือนัดหมายไว้แล้วเช่นกัน เพราะชาว รพ.สต.ต้องการเข้ามารายงานปัญหา ข้อขัดข้องในการทำงาน และข้อเสนอแนวทางเพื่อปฏิรูประบบสุขภาพปฐมภูมิ ขอให้ท่านปลัดสาธารณสุข ได้โปรดอย่าใช้อำนาจสั่งการในทางหนึ่งทางใดเพื่อยับยั้งการเดินทางขอเข้าพบนายกรัฐมนตรี และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข

              “การที่ผู้ใต้บังคับบัญชาทราบว่า ผู้บังคับบัญชากีดกันและปิดกั้น ยิ่งทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อท่านปลัดฯ ซึ่งผมไม่ต้องการเห็นภาพนั้น ผมเห็นว่า การที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงจะเปิดบ้านให้ 1 หมื่นแห่งเข้าพบ จะเป็นภาพที่สวยงาม อบอุ่น และมีความรู้สึกร่วมในการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการรับฟังและเปิดใจ นั่นคือหลักของการเจรจาสันติวิธี ผมอยากเห็นท่านปลัดฯ เปิดเวที 4 ภาค รับฟังความเห็นของหมออนามัยทั้ง 1 หมื่นแห่ง และผมยังหวังว่าท่านปลัดฯ จะสนับสนุนให้ชมรม ผอ.รพ.สต.เป็นชมรมฯ ที่เข้มแข็ง เป็นหน่วยบริการที่สำคัญที่สุดในระดับปฐมภูมิที่สร้างสุขภาพนำซ่อม สามารถนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติที่เกิดประโยชน์สูงสุดในการบริการประชาชน” 

            นายสมศักดิ์ กล่าวยืนยันว่า การเข้าพบนายกรัฐมนตรี รมว.สาธารณสุข ปลัดสาธารณสุข และผู้บริหาร สธ.ครั้งนี้ จะดำเนินการด้วยความเรียบร้อยและอยู่ในวินัย และได้ระบุว่า “ขอความกรุณาเมตตาจากท่านปลัดฯ เปิดบ้านรับฟังเรา และได้โปรดถอนคำสั่งที่ให้ระงับการเดินทางของเราไม่ว่าทางหนึ่งทางใด พวกเรารักและเคารพท่านครับ ขอเพียงขวัญกำลังใจในการทำงาน”

ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวดังกล่าว ไม่มีประเด็นทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น และทุกคนยังคงปฏิบัติงานตามนโยบายของ รมว.สธ.และ ปลัด สธ.แต่การเข้าพบครั้งนี้ เพื่อต้องการสื่อสารให้ทราบเรื่องการปฏิบัติงานภายใต้ข้อจำกัดทางกฎหมายที่ส่งผลต่อการทำงานของ รพ.สต.คือการไม่มีคำสั่งมอบอำนาจให้ ผอ.รพ.เป็นผู้บังคับบัญชาเพื่อทำหน้าที่บริหารควบคุมกับกับงานให้เป็นไปตามนโยบาย และตอบสนองตัวชี้วัดของกระทรวงตามเป้าหมายได้เท่าที่ควร ทั้งๆ ที่หลักการบริหารแล้ว เมื่อมีการมอบคน มอบงาน ก็จะต้องมีการมอบอำนาจ นั่นคือมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่กระทรวงสาธารณสุข จะต้องออกคำสั่งให้ ผอ.รพ.สต. เป็นผู้บังคับบัญชาหน่วยงาน/ส่วนราชการ

          ขณะเดียวกัน นายสมศักดิ์ ยังได้ระบุถึง ข้อจำกัด 3 ประการ ที่เกี่ยวกับการเข้าสู่ตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.ระดับชำนาญการพิเศษ ก็คือ

1.หนังสือ ก.พ. ว2/58 ได้กำหนดหลักเกณฑ์ จำนวนผู้ใต้บังคับบัญชา หรือหัวหน้ากลุ่มงานที่จะขึ้นชำนาญการพิเศษว่า จะต้องมีผู้ใต้บังคับบัญชา/ผู้ร่วมงาน จำนวน 4 คน (รวม 5 คน)

2. หนังสือ ก.พ. ที่ นร 1008.3.3/105 ลงวันที่ 27 มีนาคม 2555 เรื่องการกำหนดหลักเกณฑ์เงื่อนไขการกำหนดตำแหน่งสูงขึ้น ถูกล็อคไว้ว่า ในการเข้าสู่ตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.ชำนาญพิเศษต้องมีตำแหน่งสหวิชาชีพ เจ้าพนักงานทันตสาธารณสุข หรือ เจ้าพนักงานอาชีวบำบัด หรือเจ้าพนักงานเภสัชกรรม อย่างใดอย่างหนึ่งอย่างน้อย 1 ตำแหน่ง ซึ่งข้อเท็จจริงในข้อ 2 นี้ มีเหตุถูกจำกัดด้วยคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ที่ลดกำลังผลิตภาครัฐ และ สธ.เองก็ไม่สามารถจัดคนให้กับ รพ.สต.ได้ตามกรอบที่ควรจะเป็น

3. การเข้าสู่ตำแหน่ง ผอ.รพ.สต.ต้องเอาเม็ดเงินจากตำแหน่งว่างมายุบรวม

            “จากเหตุผล 3 ข้อข้างต้น เป็นหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่เป็นอุปสรรค ต่อการเข้าสู่ตำแหน่ง ของ ผอ.รพ.สต.ชำนาญพิเศษ จึงมีความจำเป็นที่ ชมรม ผอ.รพ.สต.จำเป็นที่จะต้องกราบเรียนนายกรัฐมนตรีทราบ เพื่อปลดล็อคหลักเกณฑ์เงื่อนไขนี้ของ ก.พ. นั่นคือความจำเป็นที่ผม ต้องนำ ผอ.รพ.สต. เข้าพบรายงานนายกรัฐมนตรี หรือรองนายกวิษณุ เครืองาม เพื่อสั่งการให้ ก.พ.ปรับปรุงหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่อยู่ภายใต้ข้อจำกัดของรัฐ” นายสมศักดิ์ กล่าว





*****************************************
ที่มา : http://www.hfocus.org/headline