ผู้เขียน หัวข้อ: 'สาวใหญ่'สุดแค้นแสนรัก โดนสลัดทิ้ง'ถ่ายคลิปแฉ'  (อ่าน 332 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์



'สาวใหญ่'สุดแค้นแสนรัก โดนสลัดทิ้ง'ถ่ายคลิปแฉ'
„แฉเบื้องหลังสุดแค้นแสนรัก "สาวใหญ่" ที่คบกันเป็นผัว-เมียกับ "โล้นสูงวัย" มาตั้งแต่วัยละอ่อน พอเริ่มแก่ แถมอ้วน กลับโดนสลัดรักไม่ส่งเสียดูแล จึงนัดมาถ่ายคลิปประจานเพื่อร้องเรียนพฤติกรรมฉาว วันศุกร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ 2559 เวลา 13:47 น. กรณีที่ "เดลินิวส์ออนไลน์" ได้รับคลิปวีดิโอเป็นภาพของพระชั้นผู้ใหญ่ระดับเจ้าคณะจังหวัด อายุสูงวัย ที่มีชื่อเสียงระดับจังหวัดแห่งหนึ่งในภาคตะวันออก มีพฤติกรรมมั่วเสพเมถุนสีกาภายในห้องแห่งหนึ่ง โดยได้ลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสและตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัด ซึ่งที่ประชุมมหาเถรสมาคมมีการแต่งตั้งพระรูปอื่นดำรงตำแหน่งเจ้าคณะจังหวัดแทนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ตามข่าวที่มีการนำเสนอไปแล้วนั้น ความคืบหน้าในเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 12 ก.พ. แหล่งข่าวที่ให้คลิปดังกล่าว เปิดเผย "เดลินิวส์ออนไลน์" ว่า ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นที่มาของคลิปอื้อฉาวนี้ เพราะพระผู้ใหญ่รายนี้เป็นสามีของ "ผู้หญิงคนที่ปรากฏในคลิป" จริง โดยคบหากันมานานตั้งแต่ผู้หญิงคนดังกล่าวยังวัยละอ่อนอยู่ ช่วงแรกๆ มีการส่งเสียเลี้ยงดูกันอย่างต่อเนื่อง กระทั่งผู้หญิงรายนี้ เริ่มมีอายุมากขึ้น ปัจจุบันอายุ 40 ปีเศษ อีกทั้งเริ่มมีรูปร่างอ้วนท้วน พระรูปดังกล่าวจึงตีตัวออกห่าง ไม่ยอมส่งเสียเหมือนเดิม ทำให้ผู้หญิงรายนี้เกิดความคับแค้น จนในที่สุดขอนัดเจอกับพระรูปดังกล่าวเมื่อปลายปี 58 ที่ผ่านมา พร้อมกับตั้งกล้องถ่าย แล้วนำไปยื่นร้องเรียนในพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพระรูปนี้ ไม่ได้มีเจตนาจะแบล็กเมล์แต่อย่างใด“





'สาวใหญ่'สุดแค้นแสนรัก โดนสลัดทิ้ง'ถ่ายคลิปแฉ'
„"พระรูปนี้ มีชื่อเสียงในการออกเหรียญวัตถุมงคล เหรียญที่ระลึกต่างๆ หลายรุ่น ทำให้วัดที่พระรูปนี้เป็นเจ้าอาวาสอยู่ มีการพัฒนาเต็มที่ อีกทั้งมีลูกศิษย์ลูกหาในจังหวัดให้ความนับถือมากมาย ชาวบ้านเรียกกันว่า "เจ้าคุณ" เมื่อเรื่องอื้อฉาวถูกร้องเรียน ก็มีการวิพากษ์วิจารณ์กันมากมาย ฝ่ายที่ไม่เชื่อก็เห็นว่า พระถูกรังแก ถูกแบล็กเมล์ ขณะที่ฝ่ายที่เชื่อว่ามีพฤติกรรมอื้อฉาวนี้จริง ก็เห็นว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะทำให้ศาสนามัวหมอง ทั้งเป็นถึงพระผู้ใหญ่ ควรรู้ดีว่า อะไรควรทำ-ไม่ควรทำ"แหล่งข่าวกล่าว แหล่งข่าวระบุต่อว่า หลังจากมีเรื่องร้องเรียนขึ้นมา ทางพระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งเห็นว่า เรื่องราวทำท่าจะบายปลาย จึงหาทางออกด้วยการแนะนำให้ลาออกจากเจ้าอาวาสและเจ้าคณะจังหวัด แล้วหลบไปอยู่ที่วัดในแถบภาคอีสาน โดยยังไม่ต้องสึก รอให้เรื่องเงียบไปก่อน แล้วค่อยมาว่ากันใหม่ เนื่องจากในช่วงเวลาที่เกิดเรื่อง พระรูปนี้กำลังจะได้รับการพิจารณาให้เลื่อนสมณศักดิ์ให้สูงขึ้นไปอีกขั้นด้วย ทำให้เรื่องการเลื่อนสมณศักดิ์ต้องหยุดไปโดยปริยาย“





ที่มา : http://www.dailynews.co.th/regional/379222




« แก้ไขครั้งสุดท้าย: กุมภาพันธ์ 12, 2016, 02:26:27 pm โดย webmaster »