ผู้เขียน หัวข้อ: พ่อแม่ยุคใหม่รู้ทัน ‘โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก’  (อ่าน 1087 ครั้ง)

ออฟไลน์ Por-MedTech

  • Global Moderator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 1192
    • อีเมล์
พ่อแม่ยุคใหม่รู้ทัน ‘โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังในเด็ก’



สภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง รวมถึงมลพิษที่มากขึ้น และใกล้ตัวเราขึ้นทุกขณะ นำมาสู่โรคภัยไข้เจ็บที่นับวันจะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สวนทางกับร่างกายของเราที่อ่อนแอลงไปเรื่อยๆ ทุกวัน โดยเฉพาะโรคยอดฮิตของคนเมืองกรุงอย่าง “โรคภูมิแพ้” ที่เชื่อได้เลยว่าหลายท่านอาจจะประสบปัญหากับอาการภูมิแพ้ต่างๆ อยู่เป็นแน่



พ.อ.หญิง พญ.ปาจรีย์ ฑิตธิวงษ์

นอกจากวัยทำงานที่มีความเสี่ยงต่อการป่วยด้วยอาการภูมิแพ้แล้ว ในเด็กก็ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังสำหรับกลุ่มอาการโรคภูมิแพ้ และอาการภูมิแพ้ที่ปรากฏในเด็กค่อนข้างมากนั่นก็คือ “โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง” ซึ่งมักแสดงอาการทางผิวหนังที่สามารถเห็นได้ชัดเจน โรคนี้สามารถพบได้ในเด็กตั้งแต่ก่อนครบขวบปีไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ แต่พบมากที่สุดในเด็กวัย 6 เดือนถึง 5 ขวบ ซึ่งสาเหตุหลักสัมพันธ์กับการถ่ายทอดพันธุกรรมภูมิแพ้มาจากพ่อแม่ ทำให้ผิวหนังขาดสารให้ความชุ่มชื้นธรรมชาติ ผิวจะแห้ง แดงอักเสบ เป็นขุยสาก ไวเกินต่อสารกระตุ้นภูมิแพ้

สำหรับอาการของโรคที่จะเห็นได้ชัดเจนนั่นคืออาการผิวหนังแห้งคันอักเสบเรื้อรัง เป็นๆ หายๆ ในทารกและเด็กเล็กจะมีอาการค่อนข้างรุนแรง ทั้งคัน ทั้งผิวแห้งเป็นขุยสาก มักพบผื่นแดงที่บริเวณใบหน้าโดยเฉพาะ 2 ข้างแก้ม ที่ลำตัว แขน ในบางรายอาจมีปัญหาในการนอนหลับเพราะคันมาก

ส่วนในเด็กโตจะพบอาการแสดงบริเวณข้อพับต่างๆ และยังคงมีอาการคัน หรืออาจจะพบอาการของโรคได้บริเวณรอบดวงตา รอบคอ รอบปาก หรือหลังใบหู มีความเป็นไปได้ที่อาการของโรคจะต่อเนื่องจนถึงวัยผู้ใหญ่ หากต่อเนื่องถึงวัยผู้ใหญ่แล้วจะมีอาการผิวแห้งเป็นขุย พร้อมอาการอักเสบ และอาจจะส่งผลให้เกิดการแพ้จากการสัมผัสสารต่างๆ ได้ด้วย โดยในผู้ป่วยบางรายอาจจะมีการข้างเคียงอื่นๆ ตามมา เช่น หอบหืด ภูมิแพ้เยื่อบุจมูก ภูมิแพ้เยื่อบุตา เป็นต้น

สำหรับการรักษาอาการของโรคนี้ ต้องดูแลผิวหนังให้ชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลาด้วยการทาสารให้ความชุ่มชื้นโดยแนะนำให้ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีสี ไม่มีน้ำหอม ไม่ใส่สารกันบูด เพื่อลดการระคายเคืองและลดความเสี่ยงต่อการแพ้ การอาบน้ำที่ถูกวิธีต้องไม่อาบน้ำร้อนมากหรือนานจนเกินไปและไม่อาบน้ำบ่อยเกินไปและใช้

ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่างกายที่มีความอ่อนโยน รวมถึงการทาครีมบรรเทาอาการผิวหนังแห้งคันอักเสบ และหมั่นไปพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ

การทาครีมเพิ่มความชุ่มชื้นควรทาหลังอาบน้ำทันทีและทาต่อเนื่องทุกวัน ครีมที่ใช้ต้องไม่ใส่สารสเตียรอยด์ ในปัจจุบันมีผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติที่ปลอดภัยมากและได้ผลดีที่มีคุณสมบัติต้านการอักเสบร่วมด้วยเป็นทางเลือกในการให้ความชุ่มชื้นกับผิวหนังในผู้ป่วยโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง สารสำคัญในครีมนี้จะประกอบด้วยสาร Stimu-tex AS, Spent Grain Wax, Shea Butter,  Argan Oil, และSaccharide Isomerate ที่มีคุณสมบัติลดอาการผิวแห้ง ที่นำมาสู่อาการคัน อักเสบแดง ลดอาการระคายเคือง ให้ความชุ่มชื้น และยังทำให้เกราะผิวหนังกลับมาแข็งแรงมากขึ้น ผิวที่ชุมชื้นจะช่วยให้ผื่นสงบเร็วและยาวนานขึ้นอีกด้วย แต่ถ้าผู้ป่วยไม่ดีขึ้นก็ควรพามาพบแพทย์เพื่อพิจารณาให้การรักษาต่อไป

จะเห็นได้ว่าโรคภัยนั้นคืบคลานมาใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด ถึงแม้การป้องกันจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แต่ในวัยเด็กที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดโรคได้ การรักษาและดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่องก็จะทำให้สามารถหายจากอาการเจ็บป่วยที่ต้องเผชิญได้ในที่สุด

ผู้เขียน : พ.อ.หญิง พญ.ปาจรีย์ ฑิตธิวงษ์ กุมารแพทย์โรคผิวหนัง โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า





****************************************************
ที่มา : https://www.hfocus.org/news
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: พฤษภาคม 28, 2016, 08:08:16 am โดย webmaster »