สุดสลด! หนุ่มหายจากบ้านนาน 14 วัน ถูกพบเป็นศพฝังท้ายป่าสวนยางพารา
20 สิงหาคม 2559 นายสุริยา บุตรจินดา นายอำเภอราษีไศล จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับการประสานจากราษฎรจากอำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ว่า ภายหลังจากสืบแกะรอยในการหายไปของลูกหลานตนเอง ชื่อ นายสรายุทธ บุษบงศ์ อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 288/1 หมู่ที่ 5 ตำบลยางชุมน้อย อำเภอยางชุมน้อย จังหวัดศรีสะเกษ ล่าสุดเชื่อว่าถูกฆ่าทิ้ง และนำศพมาฝังดินทิ้งไว้ที่ท้ายสวนยางพารา ที่บ้านโง้ง หมู่ที่ 6 ตำบลส้มป่อย อำเภอราษีไศล จึงได้ประสาน ร้อยตำรวจเอก พรภิทักษ์ มุสะกะ ร้อยเวรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรราษีไศล ร่วมกับ นายแพทย์ ธนกรณ์ ลิขิตกาญจนากรกิจ แพทย์เวรจากโรงพยาบาลราษีไศล ร่วมเดินทางออกไปตรวจสอบยังที่พบศพ
เมื่อเดินทางไปถึงสวนยางพารา ที่พึ่งปลูกได้ราว 2 ปี อยู่ข้างคลองอีสานเขียว ป่าลึกติดแม่น้ำมูล พบชาวบ้านจำนวนมาก กำลังมุงดูการขุดศพที่ถูกฝั่งดินไว้ เพื่อรอการตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ ซึ่งเมื่อเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายเดินทางไปถึง จึงได้สั่งให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างจิตฯ ช่วยนำร่างผู้ที่ถูกฝังดินไว้ขึ้นมา ซึ่งเมื่อนำขึ้นมา ญาติพี่น้องทุกฝ่าย พบเห็นศพจึงมั่นว่าเป็นหลานชายที่ติดตามกันมากว่า 14 วัน วันนี้กลายเป็นศพจริงๆ ถึงกับร้องไห้โห เป็นลมกันไปตามๆ กัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการพิสูจน์เบื้องต้น พบว่าถูกยิงด้วยกระสุนปืนเข้าที่ท้ายทอย ก่อนที่จะถูกนำศพมาฝังทิ้งไว้ท้ายป่าสวนยางพาราที่ห่างไกลผู้คน แต่ด้วยมีพยานรู้เห็นได้แอบไปแจ้งญาติๆ จึงได้พากันติดตามมาจนพบหลุมฝังศพ ก่อนที่จะประสานเจ้าหน้าที่มาขุดศพตรวจสอบ
ากการบอกเล่าของญาติๆ ทราบว่า นายสรายุทธ บุษบงศ์ ภายหลังจากได้เดินทางออกจากบ้านไปร่วมลงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 แล้ว ก็ไม่ได้เดินทางกลับบ้าน ซึ่งแม่ และญาติๆ ก็ทราบเพียงว่า หายไปกับเพื่อนๆ รอจนเข้าวันที่ 10 สิงหาคม ก็ยังไม่ทราบว่าหายไปไหน จึงได้สอบถามเพื่อนๆ ก็ไม่ทราบว่านายสรายุทธ หายไปไหน ญาติๆ จึงตัดสินใจไปแจ้งคนหายไว้ที่สถานีตำรวจภูธรยางชุมน้อย เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2559 จากนั้นก็พยายามสืบแกะรอยหามาตลอด จนในที่สุดได้เบาะแสว่า ถูกฆ่าทิ้งแล้วนำศพมาฝั่งไว้กลางป่ายางพาราแถบนี้ จึงได้เดินทางมาตรวจสอบ และเมื่อพบหลุมศพจึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบเพื่อขอขุดศพขึ้นมาดู ซึ่งก็พบว่าเป็น นายสรายุทธ บุษบงศ์ จริงๆ
จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปที่โรงพยาบาลศรีสะเกษ เพื่อรอให้แพทย์ – พยาบาล ได้ผ่าพิสูจน์ ว่าถูกยิงด้วยอาวุธปืนอะไร ซึ่งเบื้องต้นพบว่าท้ายทอยที่เดียว และตามร่างกายก็ยังดูไม่ออกว่า มีร่องรอยการต่อสู้หรือไม่อย่างไร เพราะสภาพศพเริ่มที่จะเน่าเปื่อยแล้ว เนื่องจากศพน่าจะถูกฝังมาตั้งแต่ช่วงวันที่ 7 – 8 สิงหาคม 2559 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้รอผลการตรวจพิสูจน์จากโรงพยาบาล และจะได้ติดตามสืบสวนหากลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้ มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เพราะคดีนี้ถือว่าเป็นคดีที่โหดร้ายมาก เพราะฆาตกรรมด้วยการยิงตรงท้ายทอย และแอบนำศพมาฝังดินทิ้งที่ท้ายสวนยางพารา ตรงคลองอีสานเขียว ติดแม่น้ำมูลห่างไกลผู้คนด้วย
ที่มา:http://www.komchadluek.net
