ผู้เขียน หัวข้อ: รวบยกแก๊ง 6 โจรหลอกเปลี่ยนรหัส K-Cyber Banking ฉกเงินจากบัญชีเกือบล้าน  (อ่าน 1128 ครั้ง)

ออฟไลน์ admin

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 2325
    • อีเมล์




ตำรวจกรุงเก่า รวบ 6 โจรฉกเงินเงินจากบัญชีหนุ่มเจ้าของร้านประดับยนต์กว่า 9 แสน หลังหลอกธนาคารเปลี่ยนรหัส K-Cyber Banking สารภาพทำมาแล้ว 9 ครั้ง

         จากนายพันธุ์สุธี มีลือกิจ เจ้าของร้านประดับยนต์ อายุ 28 ปี และครอบครัว นั่งประท้วงกลางถนนหน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เพื่อเรียกร้องให้ธนาคารกสิกรไทยและค่ายมือถือรับผิดชอบ หลังถูกมิจฉาชีพปลอมข้อมูลเปลี่ยนซิมการ์ดมือถือ จากนั้นโทร. ไปเปลี่ยนรหัส แอพพลิเคชั่น K-Cyber Banking และโอนเงินในบัญชีไปจนเกลี้ยง จำนวน 986,700 บาท [อ่านข่าว : หนุ่มเครียด ! ถูกเปลี่ยนรหัส K-Cyber Banking โอนเงินเกลี้ยงเกือบล้านบาท]

         ความคืบหน้าล่าสุด วันที่ 25 สิงหาคม 2559 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองพระนครศรีอยุธยา ได้ร่วมกับกันแถลงผลการจับกุมกลุ่มคนร้าย 6 คน ที่ก่อเหตุร่วมกันขโมยเงินในบัญชีของนายพันธุ์สุธี มีลือกิจ ผ่านบริการ K-Cyber Banking ธนาคารกสิกรไทย







 โดยผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมในครั้งนี้ ประกอบด้วย

         - นายเอกพจน์ หรือ เบิ้ล รัตนากร อายุ 29 ปี

         - นายพัฒนรสพงษ์ หรือ ต้อม ก้านสนธิ อายุ 33 ปี

         - นายสุริไกร หรือ ต้น อนุมาศย์ อายุ 30 ปี

         - กลุ่มเยาวชนอายุระหว่าง 17-18 ปี จำนวน 3 คน

         จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ต้องหากลุ่มนี้ได้หลอกผู้เสียหายผ่านเฟซบุ๊ก พร้อมขอสำเนาบัตรประชาชนหมายเลขบัญชี ชื่อผู้ใช้ในการโอนเงินผ่านอินเทอร์เน็ต โทร. ติดต่อ เจ้าหน้าที่ธนาคารเพื่อสอบถามยอดเงินผู้เสียหาย แล้วโทร. ติดต่อค่ายโทรศัพท์ของผู้เสียหาย เพื่อแจ้งระงับสัญญาณ ก่อนที่จะขอเปลี่ยนเป็นรูปหน้าของตนเองใส่แทนบัตรประจำตัวประชาชนของผู้เสียหาย  และโทร. เข้าระบบบัญชี K-Cyber Banking ของผู้เสียหายเพื่อขอรหัสผ่าน แล้วทำการโอนเงินหลอก ออกจากบัญชีของผู้เสียหายเข้าบัญชีของเพื่อนร่วมแก๊ง และได้ถอนเงินออกจากบัญชี แล้วนำเงินมาแบ่งกันคนละ 200,000 บาท

         นอกจากนี้ ผู้ต้องหากลุ่มนี้ยังรับสารภาพอีกว่า เคยกระทำความผิดลักษณะเดียวกันนี้มาหลายพื้นที่ รวมทั้งหมด 9 ครั้ง ได้เงินรวมทั้งสิ้นกว่า 3 ล้านบาท และในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาร่วมกันลักทรัพย์ และมีและร่วมกันใช้เอกสารราชการปลอม














ที่มา:http://www.kapook.com/