Thaimedtechjob.com

TMTJ : NEWS => บทความสุขภาพ => ข้อความที่เริ่มโดย: webmaster ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 01:07:02 pm

หัวข้อ: มะเร็ง” โรคร้ายที่ป้องกันได้
เริ่มหัวข้อโดย: webmaster ที่ พฤษภาคม 19, 2017, 01:07:02 pm
(http://www.thaihealth.or.th/data/content/2017/05/36742/cms/newscms_thaihealth_c_abdhinpruw19.jpg)

บทความโดย : พันเอกนายแพทย์กสานติ์ สีตลารมณ์ แผนกมะเร็งวิทยา กองอายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า
โรคใดๆ ก็ตาม ถ้าเราทราบถึงสาเหตุของโรคแล้วหลีกเลี่ยงหรือกำจัดสาเหตุเหล่านั้น ก็จะสามารถป้องกันโรคนั้นได้ ในปัจจุบันแพทย์สามารถระบุสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งได้บางส่วน สาเหตุหลักคือ การสูบบุหรี่ การดื่มสุรา การกินอาหารที่มีสารก่อมะเร็ง การติดเชื้อไวรัส แบคทีเรีย หรือ หนอนพยาธิ การขาดการออกกำลังกาย จนมีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน ซึ่งสาเหตุเหล่านี้ประชาชนทั่วไปสามารถหลีกเลี่ยงหรือป้องกันได้
สาเหตุสำคัญของมะเร็งที่ป้องกันได้คือเรื่องของการติดเชื้อ เช่น โรคมะเร็งเซลล์ตับ (Hepatocellular carcinoma) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบชนิดบี หรือซี ในปัจจุบันกระทรวงสาธารณสุขจัดให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในเด็กอ่อนทุกราย (ส่วนไวรัสตับอักเสบซียังไม่มีวัคซีนป้องกัน) รวมถึงการให้ยาฆ่าเชื้อไวรัส ในผู้ป่วยตับอักเสบเรื้อรังจากเชื้อไวรัสบีและไวรัสซี เชื่อว่าอีกไม่กี่ปีข้างหน้าก็จะมีผู้ป่วยด้วยโรคมะเร็งชนิดนี้ลดลง ไวรัสตัวที่สองคือ Human papilloma virus (HPV) บางสายพันธุ์ ทำให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งในช่องปาก และมะเร็งที่ทวารหนัก ปัจจุบันมีวัคซีนที่สามารถป้องกัน HPV จำหน่ายแล้ว แนะนำว่าควรฉีดในเด็กหญิงช่วงอายุ 11-13 ปี หรือ ในช่วงเรียนประถมหก จะเป็นช่วงที่ดีที่สุดในการป้องกัน อย่างไรก็ตามผู้หญิงวัยรุ่นจนถึงอายุ 30 ปีถ้ายังไม่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน การฉีดวัคซีนป้องกัน HPV ก็น่าจะมีประโยชน์อยู่
การติดเชื้อหนอนพยาธิที่ก่อมะเร็งบ่อยสุดในประเทศไทย คือ การติดเชื้อพยาธิใบไม้ตับ ซึ่งมักเกิดจากกินปลาน้ำจืดดิบๆ เช่น ปลาร้า ปลาเจ่าพบบ่อยในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วิธีป้องกันคือ ควรปรุงอาหารให้สุกด้วยความร้อนก่อนรับประทาน ถ้าเคยรับประทานปลาน้ำจืดดิบ ควรนำอุจจาระไปตรวจดูว่ามีไข่พยาธิชนิดนี้ในอุจจาระหรือไม่ ถ้ามีการติดเชื้อพยาธิ แพทย์ก็สามารถจัดยาฆ่าพยาธิให้หายขาดได้และยังเป็นการป้องกันโรคมะเร็งท่อทางเดินน้ำดีอีกด้วยเชื้อโรคชนิดสุดท้ายที่อยากกล่าวถึงคือ เชื้อแบคทีเรีย ชื่อ Helicobacter pylori ซึ่งมักติดเชื้อที่กระเพาะอาหาร ทำให้เกิดกระเพาะอาหารอักเสบเรื้อรัง จนอาจกลายเป็นโรคมะเร็งกระเพาะอาหารได้ การวินิจฉัยโรคติดเชื้อชนิดนี้ มักทำได้เฉพาะผู้ป่วยที่มีการส่องกล้องตรวจหาแผลในกระเพาะอาหาร แต่ถ้าตรวจพบการติดเชื้อแพทย์ก็จะสั่งยาปฏิชีวนะเพื่อฆ่าเชื้อให้ ก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคมะเร็งกระเพาะอาหาร
ถัดจากการติดเชื้อ ปัจจัยเลี่ยงที่สำคัญคือการเลือกรับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ได้แก่ อาหารที่ปิ้งย่างทอดจนเกรียม หรือทอดด้วยน้ำมันที่ใช้ซ้ำแล้วซ้ำอีก อาหารประเภทเนื้อสัตว์ที่ถนอมด้วยการรมควันหรือใช้เกลือในการถนอมอาหาร โดยเฉพาะเกลือไนเตรท (ดินประสิว) ที่ถูกต้องคือ ควรเลี่ยงการรับประทานอาหารประเภทนี้ แล้วหันมาเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยป้องกันมะเร็งแทน เช่น ธัญพืชทั้งเมล็ด (whole grain) อย่างข้าวซ้อมมือ ถั่วชนิดต่างๆ ลูกเดือย และผักผลไม้ชนิดต่างๆ เป็นประจำ ทุกมื้อทุกวัน ลดการบริโภคอาหารที่อุดมด้วยแป้งและไขมัน
นอกจากนั้น ควรออกกำลังกายเป็นประจำสัปดาห์ละ 5-7 ครั้งครั้งละครึ่งถึงหนึ่งชั่วโมง เช่น การเดินเร็วๆ หรือวิ่งเหยาะๆ ปั่นจักรยาน หรือ ว่ายน้ำ เพื่อควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เกิดค่ามาตรฐาน สามารถตรวจดูได้โดยการคำนวณค่า Body Mass Index (BMI) คือ น้ำหนักตัวเป็น กิโลกรัมหารด้วยความสูงเป็นเมตรยกกำลังสอง ถ้าค่า BMI มากกว่า 25 ในคนเอเชีย ถือว่าเป็นโรคอ้วน หรือใช้การวัดรอบเอว ถ้ามีค่ามากกว่า 90 ซม. ในชายไทย หรือมีค่ามากกว่า 80 ซม. ในหญิงไทย ถือว่าอ้วน ซึ่งคนอ้วนจะเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด รวมทั้งเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และ โรคหัวใจอีกด้วย
จะเห็นได้ว่า การป้องกันโรคมะเร็งทำได้ไม่ยาก เพียงแต่ท่านหันมาใส่ใจสุขภาพเพื่ออนาคตที่ดีของตนเองโดยออกกำลังเป็นประจำเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม งดสูบบุหรี่และการดื่มสุรา ฉีดวัคซีนป้องกันไวรัสตับอักเสบและ HPV