ผู้เขียน หัวข้อ: สธ.เผยหมอกควันในภาคเหนือตอนบน ยังไม่กระทบสุขภาพ ย้ำเตือนกลุ่มเสี่ยงหลีกเลี่ยงสูด  (อ่าน 873 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์
สธ.เผยหมอกควันในภาคเหนือตอนบน ยังไม่กระทบสุขภาพ ย้ำเตือนกลุ่มเสี่ยงหลีกเลี่ยงสูดดม!


กระทรวงสาธารณสุข กำชับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่ 8 จังหวัดภาคเหนือ เฝ้าระวังสถานการณ์หมอกควันอย่างต่อเนื่อง พบคุณภาพอากาศใน 5จังหวัดเกินเกณฑ์มาตรฐาน แต่ยังไม่มีผลกระทบการเจ็บป่วย  เน้นย้ำโรงพยาบาลทุกระดับจัดเตรียมยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นพร้อมให้บริการ ผู้ป่วยตลอด24 ชั่วโมง สำรองหน้ากากอนามัยไว้แล้ว 500,000 ชิ้น ย้ำเตือนกลุ่มเสี่ยงได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคหัวใจ หลีกเลี่ยงการสูดดมละอองหมอกควัน ให้เตรียมพร้อมดูแลตัวเอง ใส่หน้ากากอนามัยและรักษาสุขภาพให้แข็งแรง งดออกจากบ้านช่วงหมอกควันสูง


          นายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับมาตรการดูแลสุขภาพประชาชนจากปัญหาหมอกควันไฟในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนว่า จากข้อมูลการเฝ้าระวังฝุ่นละอองหมอกควันใน 8จังหวัดภาคเหนือตอนบน ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน แม่ฮ่องสอน พะเยา แพร่ และน่าน โดยกรมควบคุมมลพิษ พบว่าในวันที่ 13 มีนาคม 2557 จังหวัดที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน เกินค่ามาตรฐานที่กำหนดไม่เกิน 120 ไมโครกรัมต่ออากาศ 1 ลูกบาศก์เมตร มี 5 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตรวจวัดได้142 ไมโครกรัม พะเยา ตรวจวัดได้ 132 ไมโครกรัม เชียงใหม่ตรวจวัดได้ 128 ไมโครกรัม  น่านตรวจวัดได้ 126 ไมโครกรัม  และ จังหวัดแพร่ ตรวจวัดได้ 123 ไมโครกรัม

          นายแพทย์ณรงค์ กล่าวต่อว่า จากการเฝ้าระวังผลกระทบของหมอกควันต่อสุขภาพ ของสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ จากโรงพยาบาลจำนวน 73 แห่ง  8 จังหวัดที่กล่าวมา  ตั้งแต่วันที่ 2-8 มีนาคม 2557 พบว่าจำนวนผู้ป่วยไม่ได้เพิ่มขึ้นผิดปกติ    จากการเฝ้าระวังในกลุ่มผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคสำคัญที่เป็นกลุ่มเสี่ยงเกิดอาการกำเริบได้ง่ายจากการสูดดมหมอกควันในอากาศ ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคระบบทางเดินหายใจ โรคตาอักเสบและผิวหนัง พบรวม 51,179 ราย จำนวนการป่วยดังกล่าวพบได้ตามปกติอยู่แล้ว โดยพบผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดเข้าตรวจรักษา 26,492 ราย กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด 21,309 ราย  กลุ่มโรคตาอักเสบ 1,633 ราย กลุ่มโรคผิวหนังอักเสบ 1,745 ราย

          อย่างไรก็ตาม หมอกควันหรือฝุ่นละอองในอากาศ หากมีจำนวนมากจะมีผลต่อสุขภาพหลายอย่าง เช่น เกิดอาการระคายเคืองตา แสบตา แสบจมูก น้ำมูก น้ำตาไหล ตาแดง ไอ คอแห้ง เจ็บคอ คออักเสบ หายใจลำบาก อึดอัด แน่นหน้าอก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยที่เป็นโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด โรคหัวใจ จะกระตุ้นให้มีอาการรุนแรงมากขึ้นและง่ายกว่ากลุ่มอื่น ดังนั้นประชาชนควรหลีกเลี่ยงไปในพื้นที่ที่มีหมอกควันปกคลุม กระทรวงสาธารณสุขให้โรงพยาบาลทุกระดับ ติดตามสถานการณ์หมอกควันและคุณภาพอากาศ ค่าฝุ่นละออง และประเมินผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน จัดเตรียมยาเวชภัณฑ์ที่จำเป็นพร้อมให้บริการผู้ป่วยตลอด 24 ชั่วโมง รวมทั้งให้ความรู้ คำแนะนำประชาชนผ่านสื่อต่างๆ

          ทั้งนี้ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 10 เชียงใหม่ ได้สำรองหน้ากากอนามัยไว้ 500,000 ชิ้นพร้อมสนับสนุนพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน และเตรียมทีมเฝ้าระวังสอบสวนโรคเคลื่อนที่เร็ว พร้อมทั้งขอความร่วมมือประชาชน ให้งดเผาขยะ เศษวัสดุทางการเกษตร เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ ผู้ที่มีโรคประจำตัวให้เตรียมยาประจำตัวไว้ให้พร้อม หากมีความจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ควรสวมหน้ากากอนามัย หรือใช้หน้ากากอนามัยชนิดผ้า ปิดปากจมูก หากมีอาการหายใจไม่สะดวก แน่นอึดอัด เจ็บหน้าอก ขอให้ไปพบแพทย์    ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน ปลัดกระทรวงสาธารณสุขกล่าว       

 





-----------------------------------------------------------
ที่มา : http://www.moph.go.th/