ผู้เขียน หัวข้อ: การตรวจ Electrolytes  (อ่าน 3136 ครั้ง)

ออฟไลน์ Por-MedTech

  • Global Moderator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 1192
    • อีเมล์
การตรวจ Electrolytes
« เมื่อ: มิถุนายน 23, 2014, 09:16:42 pm »
การตรวจ Electrolytes

        Electrolytes หมายถึงสารที่มีประจุไฟฟ้าและสามารถนำไฟฟ้า electrolytes จะพบทั้งในเซลล์ และนอกเซลล์ สารหลั่งของร่างกาย เลือด ความสมดุลของ electrolytes ในเซลล์และนอกเซลล์จะทำให้เซลล์ทำงานปกติ electrolytes ที่แพทย์มักจะตรวจได้แก่ sodium, potassium, chloride, และ bicarbonate

การเจาะเลือดตรวจแร่ฐาตุเพื่อจะทราบว่าค่าแร่ธาตุใดมีปริมาณสูง/ต่ำกว่าเกณฑ์ปกติไปมากน้อยเพียงใด

โซเดียม Sodium

          Sodium ( Na+ ) เป็นแร่ฐาตุที่มีประจุบวกซึ่งส่วนใหญ่เกิดจาก Na โซเดี่ยมเมื่อจับกับคลอไรด์จะกลายเป็นเกลือแกง หากเรารับประทานเกลือแกงหรือ Na+ ส่วนที่เกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะ

          Na+ จะมีหน้าที่ควบคุมปริมาณน้ำในร่างกาย และการเคลื่อนเข้าออกเซลล์ของ Na+ เช่นสมอง ระบบประสาท กล้ามเนื้อ จึงทำให้อวัยวะเหล่านั้นทำงานอย่างปกติ ดังนั้นการมีปริมาณ Na+ มากไป หรือน้อยไปจะทำให้อวัยวะต่างๆทำงานผิดปกติ และอาจจะอันตรายต่อชีวิต

        โซเดียมในเลือดสูงเกินไปหรือที่เรียกว่า hypernatremia หมายถึงมีค่าโซเดี่ยวเกินมาตราฐานสาเหตุมีมากมาย เช่น ดื่มน้ำน้อย เสียน้ำจากการเสียเหงื่อ หรืออาเจียน
        โซเดียมในเลือดต่ำหรือที่เรียกว่า hyponatremia หมายถึงมีปริมาณโซเดี่ยมน้อยเมื่อเทียบกับปริมาณน้ำในร่างกาย มักจะพบในผู้ป่วยโรคตับ โรคไต ผู้ป่วยหัวใจวาย
ค่าปกติของโซเดี่ยมในเลือด 135 - 145 milliEquivalents/liter (mEq/L)

โพแทสเซี่ยม Potassium

         ในเซลล์ของคนประจุบวกส่วนใหญ่มาจาก Potassium (K+) ปริมาณโพแทสเซี่ยมที่เหมาะสมภายในเซลล์จะทำให้เซลล์ทำงานเป็นปกติ หน้าที่ของโพแทสเซี่ยมคือควบคุมการเต้นของหัวใจ การทำงานของกล้ามเนื้อ ความผิดปกติที่พบได้คือ

         โพแทสเซี่ยมสูงเกินไปหรือที่เรียกว่า hyperkalemia. Potassiumจะถูกขับออกทางไต ดังนั้นผู้ที่ไตเสื่อมจะทำให้มีการคั่งของโพแทสเซี่ยม นอกจากนั้นยาบางชนิดก็จะทำให้โพแทสเซี่ยมในเลือดสูง
โพแทสเซี่ยมในเลือดต่ำหรือที่เรียกว่า Hypokalemia, สาเหตุอาจจะเกิดจากโรคไต เสียเหงื่อมาก อาเจียน ท้องร่วง ยาบางชนิด
ค่าปกติของโพแทสเซี่ยมเท่ากับ 3.5 - 5.0 milliEquivalents/liter (mEq/L)

คลอไรด์

จะเป็นเกลือแร่ที่ช่วยรักษาสมดุลของน้ำและเกลือแร่ในร่างกาย หากร่างกายสูญเสียคลอไรด์มากร่างกายจะเป็นกรด

ค่าปกติ= 100-106 mEq/L

ไบคาร์บอเนต

เป็นเกลือแร่ที่ป้องกันมิให้เลือดเป็นกรด ความผิดปกติที่พบได้คือสูงไปหรือต่ำไป ค่าปกติ= 24-30 mEq/L

แพทย์จะสั่งเจาะเมื่อไร

ปกติการตรวจนี้จะไม่ตรวจในการตรวจร่างกายประจำปี แพทย์จะสั่งตรวจนี้ในกรณีที่มี

     - การเต้นของหัวใจผิดปกติ
     - มีอาการบวม
     - รับประทานยาที่มีผลต่อเกลือแร่ เช่นยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิตบางชนิด
     - ติดตามผลการรักษา

         การเจาะเลือดหาเกลือแร่มักจะเจาะในผู้ป่วยที่ต้องรับไว้ในโรงพยาบาล หรือผู้ป่วยที่มีอาการหนัก หรือผู้ที่รับประทานยาขับปัสสาวะ การเจาะเลือดหาเกลือแร่เป็นการเจาะหา โซเดียม โพแทสเซี่ยม คลอไรด์ และไบคาร์บอเนต เกลือแร่ในเลือดจะช่วยให้น้ำในร่างกายเกิดความสมดุล และยังช่วยให้กล้ามเนื้อ หัวใจ และอวัยวะต่างๆทำงานเป็นปกติ

หน้าที่ของ electrolytes

- ช่วยควบคุมการยืด-หดตัวของกล้ามเนื้อ
- ควบคุมปริมาณน้ำและของเหลวในร่างกายเพื่อสร้างสภาวะสมดุล
- ช่วยส่งเสริมปฏิกิริยาชีวเคมีทั้งหลายให้ดำเนินไปด้วยความราบรื่น
- กลไกการควบคุม electrolytes

ร่างกายควบคุมความเข้มข้นหรือควบคุมค่าปกติของแร่ธาตุใน electrolyte ผ่านทางฮอร์โมน จากแหล่ง ผลิตต่างกัน เช่น

- ฮอร์โมนเรนิน (renin) ผลิตจากไต
- ฮอร์โมนแองจิโอเทนซิน (angiotensin) สร้างขึ้นโดยอิทธิพลของปอด สมอง และหัวใจ
- ฮอร์โมนแอลโดสเตอโรน (aldosterone) ผลิตจากต่อมหมวกไต Adrenal gland
- ฮอร์โมนแอนตี้ไดอูเรติค (antidiuretic hormone, ADH) ผลิตจากต่อมใต้สมอง Pituitary gland



*******************************
ที่มา : http://www.siamhealth.net/