lactate dehydrogenase (LDH)
เป็นเอนไซม์ที่บ่งบอกว่าเนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดแบบเฉียบพลัน หรือเป็นแบบเรื้อรัง การติดตามค่า LDH จะสามารถติดตามการดำเนินของโรคได้ เช่น โรคไต โรคตับ มะเร็งบางชนิด เช่นมะเร็งอันณฑะ มะเร็งรังไข่
แพทย์จะสั่งการตรวจนี้เมื่อไร
-แพทย์จะสั่งการตรวจนี้เมื่อสงสัยว่าจะมีการได้รับบาดเจ็บของเซลล์หรืออวัยวะ หากขึ้นสูงแพทย์อาจจะสั่งการตรวจ LDH isoenzymes เพื่อแยกชนิดว่ามาจากอวัยวะใด นอกจากนั้นแพทย์มักสั่งตรวจเลือดชนิดอื่น เช่น ALT, AST หรือ ALP
-อันตรายต่อกล้ามเนื้อ
-เม็ดเลือดแดงแตก hemolytic anemia
-แพทย์สงสัยมะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งอัณฑะ
-หากสงสัยโรคหัวใจแพทย์จะสั่ง CK-MB ร่วมด้วย
ค่าปกติของ LDH
ค่าปกติของ LDH อยู่ระหว่าง 140-280 U/L
ค่าปกติ %
LDH-1 100 – 190 U/L 14 – 16 %
LDH-2 71 – 207 U/L 29 – 39 %
LDH-3 140 -280 U/L 20 – 26 %
LDH-4 8 – 16 %
LDH-5 6 – 16 %
การแปลผล
การที่ค่าของ LDH เพิ่มขึ้นและอัตราส่วนของ LDH isoenzymes บ่งบอกว่ามีเนื้อเยื่อได้รับอันตราย หรือได้รับบาดเจ็บ ตัวอย่างโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจะมีการเพิ่มของค่า LDH ภายใน 24-48 ชั่วโมง จะขึ้นสูงสุดใน2-3 วันและค่ากลับสู่ปกติในเวลา 10-14 วัน
ค่า LDH สูงพบได้ในภาวะ
-โรคหลอดเลือดสมอง Cerebrovascular accident (CVA, stroke)
-Hemolytic anemias
-Pernicious anemias (megaloblastic anemias)
-โรคติดเชื้อ เช่น infectious mononucleosis (mono), เยื่อหุ้มสมองอักเสบ meningitis, สมองอักเสบ encephalitis,โรคเอดส์ HIV
-เนื้อเยื่อลำไส้ หรือปอด ตายจากขาดเลือด
-โรคไต
-โรคตับ
-Muscular dystrophy
-ตับอ่อนอักเสบ Pancreatitis
-Bone fractures
-โรคมะเร็ง
สิ่งที่ควรจะรู้เกี่ยวกับ LDH
- ยาบางประเภททำให้ค่า LDH เพิ่มเช่น ยาสลบ aspirin, narcotics, procainamides, และ alcohol
- การออกกำลังกายอย่างหนัก
- เม็ดเลือดแดงแตก Hemolysis
- หากเกล็ดเลือดสูงก็อาจจะมีค่า LDH สูงขึ้น
- ดังกล่าวข้างต้น LDH สามารถพบได้ในหลายอวัยวะ และแต่ละอวัยวะก็มีโครงสร้างต่างกันเล็กน้อยซึ่งมีทั้งหมด 5 ชนิด แต่ละชนิดก็มีใน--อวัยวะต่างกันดังนี้
LDH-1 พบมากในกล้ามเนื้อหัวใจ และเม็ดเลือดแดง
LDH-2 พบมากในเม็ดเลือดขาว
LDH-3 พบสูงสุดในเนื้อปอด
LDH-4 พบสูงสุดในไต รก และตับอ่อน
LDH-5 ำบมากในตับและกล้ามเนื้อ
***************************
ที่มา : http://www.siamhealth.net/
เป็นเอนไซม์ที่บ่งบอกว่าเนื้อเยื่อได้รับบาดเจ็บหรืออันตราย ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดแบบเฉียบพลัน หรือเป็นแบบเรื้อรัง การติดตามค่า LDH จะสามารถติดตามการดำเนินของโรคได้ เช่น โรคไต โรคตับ มะเร็งบางชนิด เช่นมะเร็งอันณฑะ มะเร็งรังไข่
แพทย์จะสั่งการตรวจนี้เมื่อไร
-แพทย์จะสั่งการตรวจนี้เมื่อสงสัยว่าจะมีการได้รับบาดเจ็บของเซลล์หรืออวัยวะ หากขึ้นสูงแพทย์อาจจะสั่งการตรวจ LDH isoenzymes เพื่อแยกชนิดว่ามาจากอวัยวะใด นอกจากนั้นแพทย์มักสั่งตรวจเลือดชนิดอื่น เช่น ALT, AST หรือ ALP
-อันตรายต่อกล้ามเนื้อ
-เม็ดเลือดแดงแตก hemolytic anemia
-แพทย์สงสัยมะเร็งรังไข่ หรือมะเร็งอัณฑะ
-หากสงสัยโรคหัวใจแพทย์จะสั่ง CK-MB ร่วมด้วย
ค่าปกติของ LDH
ค่าปกติของ LDH อยู่ระหว่าง 140-280 U/L
ค่าปกติ %
LDH-1 100 – 190 U/L 14 – 16 %
LDH-2 71 – 207 U/L 29 – 39 %
LDH-3 140 -280 U/L 20 – 26 %
LDH-4 8 – 16 %
LDH-5 6 – 16 %
การแปลผล
การที่ค่าของ LDH เพิ่มขึ้นและอัตราส่วนของ LDH isoenzymes บ่งบอกว่ามีเนื้อเยื่อได้รับอันตราย หรือได้รับบาดเจ็บ ตัวอย่างโรคกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดจะมีการเพิ่มของค่า LDH ภายใน 24-48 ชั่วโมง จะขึ้นสูงสุดใน2-3 วันและค่ากลับสู่ปกติในเวลา 10-14 วัน
ค่า LDH สูงพบได้ในภาวะ
-โรคหลอดเลือดสมอง Cerebrovascular accident (CVA, stroke)
-Hemolytic anemias
-Pernicious anemias (megaloblastic anemias)
-โรคติดเชื้อ เช่น infectious mononucleosis (mono), เยื่อหุ้มสมองอักเสบ meningitis, สมองอักเสบ encephalitis,โรคเอดส์ HIV
-เนื้อเยื่อลำไส้ หรือปอด ตายจากขาดเลือด
-โรคไต
-โรคตับ
-Muscular dystrophy
-ตับอ่อนอักเสบ Pancreatitis
-Bone fractures
-โรคมะเร็ง
สิ่งที่ควรจะรู้เกี่ยวกับ LDH
- ยาบางประเภททำให้ค่า LDH เพิ่มเช่น ยาสลบ aspirin, narcotics, procainamides, และ alcohol
- การออกกำลังกายอย่างหนัก
- เม็ดเลือดแดงแตก Hemolysis
- หากเกล็ดเลือดสูงก็อาจจะมีค่า LDH สูงขึ้น
- ดังกล่าวข้างต้น LDH สามารถพบได้ในหลายอวัยวะ และแต่ละอวัยวะก็มีโครงสร้างต่างกันเล็กน้อยซึ่งมีทั้งหมด 5 ชนิด แต่ละชนิดก็มีใน--อวัยวะต่างกันดังนี้
LDH-1 พบมากในกล้ามเนื้อหัวใจ และเม็ดเลือดแดง
LDH-2 พบมากในเม็ดเลือดขาว
LDH-3 พบสูงสุดในเนื้อปอด
LDH-4 พบสูงสุดในไต รก และตับอ่อน
LDH-5 ำบมากในตับและกล้ามเนื้อ
***************************
ที่มา : http://www.siamhealth.net/