ผู้เขียน หัวข้อ: ย้ำประชาชนอย่าตื่นตระหนกข่าวการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ แนะโรคนี้ทุกคนป้องกันได้  (อ่าน 496 ครั้ง)

ออฟไลน์ Por-MedTech

  • Global Moderator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 1192
    • อีเมล์
สธ. ย้ำประชาชนอย่าตื่นตระหนกข่าวการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ แนะโรคนี้ทุกคนป้องกันตัวเองได้







กระทรวงสาธารณสุข  ย้ำประชาชนอย่าตระหนกโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ บี  เชื้อนี้เป็นเชื้อที่พบได้ในไทยและทั่วโลก เชื้อไม่มีการกลายพันธุ์  ชี้พื้นที่มีอากาศหนาวเย็น พื้นที่ที่มีคนรวมอยู่กันอย่างแออัด มีความเสี่ยงสูง แนะประชาชนทุกคนป้องกันโรคได้  โดยล้างมือฟอกมือบ่อยๆ ระบุต้นปีนี้พบป่วย 1,348 ราย เสียชีวิต 2 ราย หากมีอาการป่วย คือ ไข้สูงเฉียบพลัน ปวดเมื่อย อ่อนเพลีย ให้หยุดเรียน หยุดงาน พักผ่อนอยู่ที่บ้าน คาดหน้ากากอนามัย ป้องกันเชื้อแพร่คนอื่น หากอาการไม่ดีขึ้นใน 2 วัน ให้รีบพบแพทย์ 

 
จากกรณีที่โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ในกทม. ได้ส่งหนังสือแจ้งหยุดการเรียนการสอน ระหว่าง 23-28 มกราคม 2558 แก่ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 เนื่องจากมีนักเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์บี (B) ค่อนข้างมาก เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคนั้น
 
     ความคืบหน้าในเรื่องนี้ วันนี้ (23 มกราคม 2558 ) ศาสตราจารย์นายแพทย์รัชตะ  รัชตะนาวิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข  กล่าวว่า โรคไข้หวัดใหญ่ที่เกิดขึ้นครั้งนี้  เป็นการระบาดตามฤดูกาล  เนื่องจากโรคนี้มักพบมากในช่วงอากาศเย็น คือช่วงหน้าหนาวและหน้าฝน  ดังนั้นผู้ที่อยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศหนาวเย็น รวมถึงอยู่ในพื้นที่แออัดจึงมีโอกาสป่วยเป็นโรคนี้ได้สูงกว่าพื้นที่อื่นๆ  โดยไข้หวัดใหญ่ที่พบในประเทศไทย มีหลายสายพันธุ์  สายพันธุ์บี ที่พบครั้งนี้ เป็นสายพันธุ์ที่พบได้ทั่วโลก  ไม่ใช่สายพันธุ์ใหม่ ในไทยพบได้ประปรายอยู่แล้ว   เชื้อยังไม่มีปัญหากลายพันธุ์ จึงไม่อยากให้ประชาชนทั่วไปตระหนกในเรื่องนี้  อย่างไรก็ดี ในวันนี้ได้สั่งการให้กรมควบคุมโรค ดำเนินการสอบสวนและควบคุมป้องกันโรคที่โรงเรียนแห่งนี้แล้ว
 
     นายแพทย์โสภณ  เมฆธน  อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ไข้หวัดใหญ่ที่พบขณะนี้ เป็นโรคที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล  เนื่องจากอากาศเย็น ทำให้ทั้งในผู้ใหญ่และเด็กจึงป่วยเป็นโรคนี้ได้ง่าย  จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคไข้หวัดใหญ่ของกรมควบคุมโรค โดยสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ 1 มกราคม – 20 มกราคม 2558 พบผู้ป่วยด้วยโรคไข้หวัดใหญ่ จำนวน 1,348 ราย เสียชีวิต 2 ราย โดยมีแนวโน้มของการเกิดโรคเพิ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา และคาดว่าจำนวนผู้ป่วยในช่วงเดือนมกราคม-มีนาคม 2558 นี้อาจจะสูงกว่าหรือใกล้เคียงกับปีที่แล้ว
 
     นายแพทย์โสภณ กล่าวต่อว่า  โดยทั่วไปเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ มีหลายสายพันธุ์  เชื้อจะอยู่ในน้ำมูก น้ำลาย หรือเสมหะของผู้ป่วย  ติดต่อได้ง่ายจากการไอหรือจาม  หรือเชื้อติดมากับมือ  ในการเกิดโรคแต่ละครั้งจะเกิดจากสายพันธุ์ย่อยๆ เพียงพันธุ์เดียว ซึ่งเป็นแล้วจะมีภูมิคุ้มกันต่อสายพันธุ์นั้น  อาการของโรคไข้หวัดใหญ่มักจะเกิดขึ้นทันทีทันใดด้วยอาการไข้สูง ตัวร้อน หนาว ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อมาก  ปวดศีรษะ อ่อยเพลีย เบื่ออาหาร  คัดจมูก มีน้ำมูกใสๆ ไอ  บางรายอาจไม่มีอาการคัดจมูกหรือเป็นหวัดเลยก็ได้ ไข้มักเป็นอยู่ 2 – 4 วัน และค่อยๆลดลง อาการจะค่อยๆดีขึ้น ในกรณีที่ป่วยแล้ว 48 ชั่วโมง อาการไม่ดีขึ้นหรืออาการรุนแรงเหนื่อยมาก ให้รีบพบแพทย์ทันที แต่หากเป็นกลุ่มเสี่ยงสูง ที่เมื่อป่วยหรือมีโอกาส เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงสูง ให้รีบพบแพทย์ทันที ได้แก่กลุ่ม เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ และผู้ป่วยโรคเรื้อรังต่าง ๆ
         
     ในการป้องกันโรค  ขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงคลุกคลีกับผู้ป่วย ออกกำลังกายสม่ำเสมอ  พักผ่อนให้เพียงพอ และให้ยึดหลักกินร้อน ใช้ช้อนกลาง และล้างมือฟอกสบู่บ่อยๆ ผู้ที่ป่วยควรหยุดเรียน หยุดงานและพักรักษาตัวที่บ้าน อาการจะดีขึ้นเอง และใส่หน้ากากอนามัย  กรณีของโรงเรียน หากมีเด็กป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่   ขอให้เด็กป่วยหยุดเรียน เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อแพร่ติดเด็กคนอื่น และให้ดูแลรักษาความสะอาดอุปกรณ์เครื่องใช้ เช่นลูกบิดประตู ราวบันได แป้นพิมพ์คอมพิวเตอร์  โดยใช้น้ำผงซักฟอกทั่วไป  เชื้อโรคชนิดนี้จะอยู่ในอุณหภูมิทั่วไปได้เพียง 8 ชั่วโมง หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422 นายแพทย์โสภณ กล่าวปิดท้าย   





**********************************
ที่มา : http://www.moph.go.th/moph2/index4.php