ผู้เขียน หัวข้อ: อันตรายจาก `เครื่องทำน้ำอุ่น` ไม่ได้มาตรฐาน  (อ่าน 690 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์



กรมควบคุมโรค เตือนประชาชนเพิ่มความระวังในการอาบน้ำจากเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้ที่ใช้พลังงานแก๊สหุงต้มไม่ได้มาตรฐาน แนะวิธีสังเกตระหว่างอาบน้ำ และปฏิบัติตนหากพบความผิดปกติ เผยหน้าหนาวทุกปีมีรายงานผู้เสียชีวิตจากเครื่องทำน้ำอุ่นไม่ได้มาตรฐานปีละ 1-2 คน     

          นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวพบผู้เสียชีวิตในห้องน้ำขณะอาบน้ำในจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเบื้องต้น คาดเสียชีวิตจากการสูดแก๊สพิษ เช่น คาร์บอนมอนอกไซด์ โพรเพน ว่า ขณะนี้หลายภูมิภาคของประเทศไทยโดยเฉพาะบริเวณภูเขาสูง ยอดดอยในพื้นที่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอากาศหนาวเย็น ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอื่นไปท่องเที่ยว และเนื่องจากอากาศที่หนาวเย็น ทำให้ต้องอาบน้ำอุ่นจากเครื่องทำน้ำอุ่น แต่บางพื้นที่ติด

ตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นแบบใช้แก๊สที่ไม่ได้มาตรฐาน ประกอบกับก๊าส LPG หรือก๊าสหุงต้ม และก๊าสโพรเพนในเครื่องทำน้ำอุ่นสันดาปไม่ดี ถ้าร่วมกับห้องน้ำไม่มีอากาศถ่ายเท ทําให้เกิดการสะสมของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนอกไซด์ ในปริมาณมากจนทำให้เกิดอากาศหายใจ หมดสติ และเสียชีวิตได้อย่างเฉียบพลัน เนื่องจากขาดออกซิเจน จากข้อมูลการเฝ้าระวังโรคและภัยสุขภาพ
         สำนักระบาดวิทยากรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ในฤดูหนาวปี 2555-2556 พบผู้ป่วยหมดสติขณะอาบน้ำในห้องน้ำที่ใช้เครื่องทําน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊สในที่พักพื้นที่ จ.เชียงใหม่ จํานวน 5 ราย เสียชีวิต 2 ราย และในฤดูหนาวปี 2557-2558 นี้ มีรายงานผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นพระสงฆ์จำวักที่วัดป่าแห่งนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ทั้ง 2 ราย ซึ่งจากการสอบสวนโรค พบว่า มีระดับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ อยู่ในระดับสูงมากที่เป็นระดับที่สามารถทําให้เสียชีวิตได้ทันที และคาดว่าน่าจะมีการป่วย และเสียชีวิตจากกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในที่พักพื้นที่อื่นๆ อีกหลายแห่ง แต่ไม่ได้มีการติดตามเฝ้าระวัง ดังนั้น จึงควรให้ความระมัดระวังการเดินทางไปพักผ่อนในที่พักที่มีการใช้เครื่องทําน้ำอุ่นแบบใช้แก๊ส รวมทั้งการใช้อุปกรณ์ทําความอบอุ่นที่ใช้แก๊ส หรือน้ํามันก๊าดเป็นเชื้อเพลิงดังกล่าว
          นพ.โสภณ กล่าวต่อว่า ขอฝากเจ้าของโรงแรม รีสอร์ต ที่พัก บ้านเรือนที่พักอาศัย รวมทั้งศาสนสถานต่างๆ ที่มีการใช้เครื่องทําน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊สควรดำเนินการดังนี้ 1.มีการตรวจสอบคุณภาพ มาตรฐาน และการบํารุงรักษาเครื่องทําน้ำอุ่นที่ใช้ระบบแก๊ส 2.ตรวจสอบการรั่วและปริมาณการสะสมของก๊าซในสถานที่พักอยู่เสมอ 3.ห้องน้ำ หรือห้องพักควรมีพื้นที่กว้างเพียงพอและมีช่อง หรือพัดลมระบายอากาศที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน และ 4.ติดป้ายเตือนและบอกถึงวิธีใช้งานของเครื่องทําน้ำอุ่นไว้อย่างชัดเจน
          ขณะเดียวกัน ผู้ที่เข้าพักอาศัยควรปฏิบัติ ดังนี้ 1. สังเกตอาการที่อาจเกิดขึ้นจากการได้รับแก๊ส ระหว่างใช้ห้องน้ำ เช่น วิงเวียน หน้ามืด หายใจลําบาก เป็นต้น ควรรีบออกจากห้องน้ำ หรือให้การช่วยเหลือทันที 2. คนที่มีโรคประจําตัว เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง โรคระบบทางเดินลมหายใจ ควรระมัดระวังมากขึ้นในการใช้ห้องน้ำที่มีเครื่องทําน้ําอุ่นแบบใช้ระบบแก๊ส เพราะหากได้รับก๊าซดังกล่าวจะทําให้เสียชีวิตได้ง่ายกว่ากลุ่มอื่นๆ และ 3. การอาบน้ำโดยเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้แก๊สหุงต้ม ถ้าไม่มีเครื่องระบายอากาศ ควรเปิดประตูห้องน้ำทิ้งไว้ 15 นาที เพื่อให้อากาศถ่ายเท ก่อนที่คนอื่นจะอาบน้ำต่อ หากมีคนอาบน้ำนานผิดปกติให้รีบช่วยเหลือ เพราะอาจหมด
สติในห้องน้ำ
          สำหรับเจ้าหน้าที่อุทยาน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข เจ้าของที่พัก และเจ้าหน้าที่อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อการท่องเที่ยว ควรให้ความรู้แก่ประชาชนในการเข้าพักอาศัยในโรงแรม ที่พัก ที่มีการใช้เครื่องทําน้ำอุ่นแบบใช้ระบบแก๊สอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ที่ไม่มีไฟฟ้าใช้เพียงพอ และจําเป็นต้องใช้ก๊าซเป็นเชื้อเพลิง เช่น บริเวณป่า ภูเขาสูง เป็นต้น ผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422
 
 



          ที่มา : thaihealth.or.th