ผู้เขียน หัวข้อ: หมอปิยะสกล ให้ความสำคัญการป้องกันควบคุมโรคเป็นหัวใจการสาธารณสุข  (อ่าน 1257 ครั้ง)

ออฟไลน์ Por-MedTech

  • Global Moderator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 1192
    • อีเมล์
หมอปิยะสกล ให้ความสำคัญการป้องกันควบคุมโรคเป็นหัวใจการสาธารณสุข



รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้กรมควบคุมโรคสร้างความเข้มแข็งระบบป้องกันควบคุมโรคเป็นหัวใจการสาธารณสุข โดยสร้างเครือข่ายบูรณาการรัฐเอกชน และเตรียมรองรับกฎหมายควบคุมโรคติดต่อฉบับใหม่ พร้อมเร่งผลิตนักระบาดวิทยา เฝ้าระวังป้องกันโรค ลดการสูญเสียชีวิตและเศรษฐกิจประเทศ           

วันนี้ (26 สิงหาคม 2558) ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายแพทย์ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุขและคณะ   ตรวจเยี่ยมกรมควบคุมโรค รับฟังผลการดำเนินงาน และมอบนโยบายแนวทางการทำงานให้เจ้าหน้าที่กรมและศูนย์ป้องกันควบคุมโรคในภูมิภาค12 เขตทั่วประเทศว่า การป้องกันควบคุมโรคโรคถือเป็นหัวใจของระบบสุขภาพ ตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อให้เกิดสุขภาวะที่ดีต่อประชาชน ซึ่งการทำงานของกรมควบคุมโรคที่ผ่านมามีผลงานเป็นที่ยอมรับของทุกฝ่าย โดยเฉพาะการป้องกันโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง ที่เป็นความภาคภูมิใจของประเทศไทยนั้นจำเป็นต้องพัฒนาให้มีความเข้มแข็งขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
 
สำหรับพระราชบัญญัติควบคุมโรคติดต่อฉบับใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างลงในราชกิจจานุเบกษา คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายใน 2559 ขอให้กรมควบคุมโรคเตรียมการรองรับพระราชบัญญัติฉบับนี้ เพื่อดำเนินการได้ทันที เช่น การตั้งคณะกรรมการระดับชาติ ระดับจังหวัด ซึ่งกฎหมายฉบับนี้ จะเชื่อมประสานสอดคล้องกับกฎหมายนานาชาติและความร่วมมือรัฐเอกชนในประเทศ สามารถจัดการภัยสุขภาพได้ทันการณ์ พร้อมทั้งสร้างความเข้มแข็งงานด้านระบาดวิทยา เพิ่มประสิทธิภาพ ความเชื่อมั่นระบบการควบคุมป้องกันโรคของไทย จะเพิ่มการผลิตนักระบาดวิทยาให้มีอย่างเพียงพอ รวมทั้งให้มีความก้าวหน้าในตำแหน่ง เนื่องจากเป็นบุคลากรที่มีความสำคัญในการเฝ้าระวัง ค้นหาสาเหตุของปัญหาสุขภาพทั้งโรคติดต่อ อุบัติเหตุจราจร เพื่อนำมาสู่การจัดระบบป้องกัน ลดความสูญเสียจากการเจ็บป่วย และเศรษฐกิจประเทศได้เป็นอันมาก 
 
“ที่อยากเห็นคือ ทำอย่างไรให้ประชาชน มาช่วยกันคิด ช่วยกันทำและรักษาตนเองให้สุขภาพดี ไม่มีโรค นั่นคือการควบคุมโรคที่ดีที่สุด เพราะประชาชนเป็นเจ้าของสุขภาพ ซึ่งต้องอาศัยการบูรณาการประสานสร้างเครือข่ายหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่าในช่วงนี้เป็นช่วงที่ดีที่สุดในการบูรณาการร่วมกับทุกกระทรวง เพื่อให้เกิดผล  และภาคเอกชนมีการตื่นตัวในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น มั่นใจว่าปัญหาสุขภาพประชาชนจะได้รับความร่วมมือในการแก้ไขและป้องกันดีขึ้น”ศาสตราจารย์คลินิก เกียรติคุณ นายแพทย์ปิยะสกล  กล่าว.






***********************************************
ที่มา : http://www.moph.go.th/index.php