"ดีเอสไอ"ขีดเส้น 8เม.ย.นี้ 'ธัมมชโย'ต้องมาด้วยตัวเอง
„ลั่นต้องมารับทราบข้อหาด้วยตัวเองตามสถานที่กำหนด เร่งสอบพระลูกวัดเอี่ยวรับเช็คเอี่ยวคดียักยอกทรัพย์ "สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น" วันพฤหัสที่ 31 มีนาคม 2559 เวลา 15:08 น. เมื่อวันที่31 มี.ค. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) พ.ต.อ.ไพสิฐวงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวถึงการออกหมายเรียกพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ในฐานะผู้ต้องหาเพื่อรับทราบข้อหาสมคบฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงินและร่วมกันรับของโจรว่า ได้ส่งหมายเรียกไปยังพระธัมมชโยเพื่อเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในวันที่ 8 เม.ย.นี้ เวลา 09.00น. แล้ว เบื้องต้นยังไม่ได้มีการแจ้งเลื่อนเข้ารับทราบข้อกล่าวหา ขอให้รอถึงกำหนดวันนัดก่อนซึ่งกรณีการออกหมายเรียกผู้ต้องหา หากไม่มาตามหมายเรียกจะมีกระบวนการพิจารณาถึงเหตุจำเป็นมากน้อยแค่ไหน แต่โดยทั่วไปสามารถเลื่อนได้ 1 ครั้ง ส่วนข้อกังวลที่อาจมีการอ้างอาการเจ็บป่วยไม่สามารถเดินทางเข้ารับทราบข้อหาตามสถานที่ที่พนักงานสอบสวนกำหนดนั้น จำเป็นต้องแจ้งข้อขัดข้องให้ชัดเจนเพื่อประกอบการพิจารณาตามขั้นตอน สำหรับ น.ส.ศศิธร โชคประสิทธิ์ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกรับทราบข้อกล่าวหา พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้รับทราบข้อกล่าวหาในวันและเวลาเดียวกับพระธัมมชโย อธิบดีดีเอสไอยังกล่าวถึงการสอบสวนเส้นทางการเงินของผู้มีชื่อรับเช็คบริจาคจากนายศุภชัย ศรีศุภอักษรอดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น นอกเหนือจากพระธัมมชโยยังมีเครือข่ายพระลูกวัดรายอื่น ซึ่งขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันนี้ทีมโฆษกดีเอสไอออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีออกหมายเรียกพระธัมมชโยว่า ตามที่ปรากฏเป็นข่าวทางสื่อต่าง ๆ ว่าดีเอสไอได้ออกหมายเรียกพระธัมมชโยในฐานะผู้ต้องหาในฐานความผิดสมคบกันฟอกเงิน ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจรนั้น ดีเอสไอขอชี้แจงต่อสาธารณชนในประเด็นดังกล่าวว่าตามที่ดีเอสไอได้สอบสวนดำเนินคดีกับนายศุภชัยกับพวก ในความผิดเรื่องยักยอกทรัพย์สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นและข้อหาร่วมกันฉ้อโกงประชาชนมูลค่าความเสียหายกว่า 16,000 ล้านบาทไปแล้ว และต่อมาพนักงานอัยการได้มีคำแนะนำให้ดีเอสไอพิจารณาดำเนินการกับกลุ่มบุคคลที่ได้รับเงินที่ถูกยักยอกไปจากสหกรณ์ด้วยซึ่งกรณีดังกล่าวดีเอสไอได้แถลงข่าวให้สาธารณชนรับทราบไปก่อนหน้าแล้ว ทั้งนี้ต่อมาได้มีผู้เสียหายที่เป็นสมาชิกสหกรณ์คลองจั่นจำนวนหนึ่งได้เข้าร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีกับผู้ที่รับเช็คสหกรณ์โดยไม่มีมูลหนี้ซึ่งได้รับเป็นคดีพิเศษที่ 27/2559 โดยคณะพนักงานสอบสวนได้ทำการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานระยะหนึ่งจนเมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ผ่านมา คณะพนักงานสอบสวนได้ร่วมประชุมกับพนักงานอัยการเพื่อพิจารณาพยานหลักฐานโดยที่ประชุมพิจารณาแล้วเห็นว่าทางคดีมีพยานหลักฐานเพียงพอจะแจ้งข้อหานายศุภชัย พระธัมมชโยและน.ส.ศศิธร โชคประสิทธิ์ ในความผิดฐานสมคบกันฟอกเงิน ,ร่วมกันฟอกเงิน และร่วมกันรับของโจรโดยกำหนดวันให้ไปรับทราบข้อกล่าวหา และให้ถ้อยคำ ที่สำนักคดีการเงินการธนาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในวันที่ 8 เม.ย. เวลา 09.00 น.“
ที่มา :
http://www.dailynews.co.th/crime/388981
