รองผบช.น.เผย เตรียมออกหมายจับเพิ่ม 3-4 ราย กรณีอาบอบนวดนาตารี มีหลักฐานมากกว่า 90% แล้ว ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับเก่าได้ประสานตม. ระงับไม่ได้ให้หนีออกนอกประเทศ
จากกรณีกรมปกครองได้บุกเข้าตรวจค้นสถานบริการ “นาตารีเอ็นเตอร์เทนเมนท์” อาบอบนวด ถนนรัชดาภิเษกขาออก แขวงและเขตดินแดง กทม. จากการตรวจค้นสามารถจับกุมหมอนวดได้ทั้ง121 คน และผู้จัดการร้านพร้อมพนักงานเชียร์แขกอีก5 คน นอกจากนี้ยังพบสมุดบัญชีที่เปิดเผยว่า มีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่รัฐ หลายหน่วยงานเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเปิดสถานบริการอีกด้วย เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตามที่ได้มีการเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.จารุวัฒน์ ไวศยะ รอง ผบช.น. ประชุมเร่งรัดคดีนาตารี พร้อมแถลงความคืบหน้าการออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมใช้เวลาประมาณ 1 ชม. จึงเสร็จสิ้น พล.ต.ต.จารุวัฒน์ กล่าวว่า ตามที่ ผบช.น.ได้มีการสั่งให้เปลี่ยนชุดสอบสวนเพื่อให้เกิดการสอบสวนที่เป็นธรรมและเพื่อให้มีความละเอียดรอบคอบในการทำสำนวนคดีให้มีประสิทธิภาพในการรวบรวมหลักฐานซึ่งจะทำให้สามารถนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้ และเมื่ออาทิตย์ที่แล้วทางผู้บัญชาการได้มีคำสั่งให้เปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนมาเป็นชุดสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาลโดยเปลี่ยนชุดพนักงานสอบสวนบางคน เพื่อให้การสอบสวนได้มาซึ่งพยานหลักฐานอย่างเป็นธรรม
พล.ต.ต.จารุวัฒน์ กล่าวต่อว่า สำหรับการประชุมในวันนี้ ได้ร่วมกันประชุมในประเด็นการสอบสวนผู้ต้องหา การสอบสวนพยาน และให้มีการสอบสวนเพิ่มเติมในหลายประเด็น เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อเท็จจริงตลอดจนให้มีการขยายผลการสอบสวนเพื่อนำผู้กระทำความผิดมาลงโทษ และได้เน้นย้ำถึง พรบ.ค้ามนุษย์ ซึงเพิ่งผ่าน สนช.ประการเป็นกฎหมายใหม่เพื่อให้พนักงานสอบสวนให้เป็นไปตามหลักของกฎหมาย ขณะนี้เป็นชุดสอบสวนของกองบัญชาการนครบาล ตนจะเรียกประชุมติดตามคดีในทุกเช้าเพื่อดำเนินการจับผู้กระทำผิดมาโดยเร็วที่สุด และเตรียมออกหมายจับเพิ่มอีก 3-4 คน ส่วนในเรื่องของการออกหมายจับตอนนี้มีหลักฐานมากกว่า 90% แล้ว ส่วนผู้ต้องหาตามหมายจับเก่าได้ประสานไปทางสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อระงับไม่ได้ให้หนีออกนอกประเทศ
โดยผู้ต้องหา 2 รายที่ถูกออกหมายจับก่อนหน้านี้คือ นายประเสริฐ สุขขี หรือโกลัก เจ้าของ นาตารีอาบอบนวด และ นายสมหมาย พัดสิงห์ หรือก้อง ผู้จัดการและเจ้าของใบอนุญาต โดยถูกออกหมายจับในข้อหา ร่วมกันค้ามนุษย์ ,ร่วมกันแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยการค้าประเวณี ,ร่วมกันเป็นผู้ดูแลสถานค้าประเวณี , ให้สถานที่พักพิงต่างด้าว , ร่วมกันตั้งสถานบริการโดยไม่รับอนุญาต และข้อหาอื่นๆ
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่าในวันนี้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง จะไปขอศาลออกหมายจับเพิ่มอีก 5 คน เป็นนิติบุคคลที่ตรวจสอบเครื่องรูดบัตรแล้วพบว่าเข้าบัญชีนิติบุคคล จึงเชื่อว่ามีส่วนในการกระทำความผิด ซึ่งในจำนวนนี้มีบุตรชายของโกลักด้วย
ที่มา :
http://www.dailynews.co.th/crime/505510
