ผู้เขียน หัวข้อ: 2โจร'ลืมเช็กตกฟาก! แห้วกระชากสร้อย-ซ้ำตกเกือกม้า..  (อ่าน 941 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์
คาดว่า 2 โจรวัยโจ๋ คงลืมเช็กวันเวลาตกฟาก ทำให้ดวงแตกขี่รถกระชากสร้อยทองไม่ได้ แถมลนลานขี่หนีวิน จยย.พลเมืองดี พุ่งชนขอบสะพานกลับรถตัวปลิวตกเจ็บอีก

เมื่อวันที่ 6 ส.ค. ร.ต.อ.กนกพล ไกรราม รอง สว.(สอบสวน) สน.บางมด รับแจ้งมีเหตุ จยย.ชนขอบสะพานกลับรถมีผู้ตกลงมาได้รับบาดเจ็บ บริเวณสะพานกลับรถหน้าหมู่บ้านชิชา ถนนพระราม 2 แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน จึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.สมหมาย เดี่ยวรัตนกุล สวป.สน.บางมด แพทย์กู้ชีพ รพ.บางปะกอก 9 อินเตอร์เนชั่นแนล และมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง 

ที่เกิดเหตุเป็นสะพานกลับรถหน้าหมู่บ้านดังกล่าว ซึ่งใช้เป็นจุดกลับรถจากฝั่งพระราม 2 ขาออก มุ่งหน้าไปทางถนนพระราม 2 ฝั่งขาเข้า ความสูงจากพื้นถนนประมาณ 10 เมตร จากการตรวจสอบด้านบนบริเวณกลางสะพานพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นดรีม สีขาวแดง ทะเบียน 5 กพ 5598 กรุงเทพมหานคร แต่ติดแผ่นป้ายทะเบียนปลอมเลขที่ 4 กม 8781 กรุงเทพมหานคร พลิกคว่ำอยู่ 1 คัน ส่วนผู้ขับขี่และซ้อนท้ายร่างกระแทกขอบสะพานตกลงไปอยู่บนถนนตรงช่องทางด่วนด้านล่าง ได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้ง 2 คน



ทราบชื่อคนขับคือ นายวีรพงษ์ เนธิบุตร อายุ 20 ปี นอนหายใจรวยริน กระดูกสะโพกหัก ถูกนำตัวส่ง รพ.บางปะกอก 9 ส่วนคนซ้อนท้ายคือ นายบริสุทธิ์ สุขเพีย อายุ 22 ปี สภาพศีรษะแตกเลือดอาบหมดสติ แพทย์เร่งปั๊มหัวใจจนสัญญาณชีพกลับมา ก่อนส่งห้องไอซียู รพ.บางมด

สอบถาม นายอภิชาติ แซ่อุ้น อายุ 57 ปี พลเมืองดีที่ขี่ จยย.ไล่ตามหลังผู้บาดเจ็บ ให้การว่า ตนเป็นวิน จยย.ที่ตลาดร่วมมิตร ถนนวุฒากาศ บังเอิญเห็นผู้บาดเจ็บทั้งคู่ ขี่รถเข้าไปพยายามกระชากสร้อยคอทองคำของลุงวัย 60 คนหนึ่ง ที่หน้าตลาด แต่กระชากไม่สำเร็จ เพราะมีคนเห็นมาก และคนร้ายก็ลนลานด้วย



“พอก่อเหตุไม่สำเร็จ คนร้ายก็ขี่รถหลบหนี จากถนนวุฒากาศ เข้าสู่ถนนจอมทอง ถนนสุขสวัสดิ์ และเข้าสู่ถนนพระราม 2 ขาออก ผมก็ขี่ไล่บี้มาติดๆ ระยะทาง 5 กม. จากนั้นคนร้ายก็ขี่ขึ้นสะพานกลับรถ แต่ด้วยความเร่งรีบและลนลาน จึงพลาดขี่พุ่งชนขอบสะพานอย่างแรง จนร่างทั้งคู่ปลิวตกลงไปกระแทกพื้นถนนด้านล่าง ส่วนรถพังเสียหายอยู่บนเกือกม้า” นายอภิชาติ เผย

ด้าน ร.ต.อ.นัทธพงศ์ กล่าวว่า คดีนี้ผู้เสียหายยังไม่สูญเสียทรัพย์สิน แต่ตำรวจอยู่ระหว่างติดตามตัวเพื่อให้มาเป็นเจ้าทุกข์คดีพยายามชิงทรัพย์ และต้องเฝ้าดูอาการของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย อย่างใกล้ชิด ส่วน จยย.ที่นำมาก่อเหตุ ทราบว่าเป็นรถของคนรู้จักกันที่ผู้ต้องหายืมเอามาก่อเหตุ โดยได้นำทะเบียนรถปลอมมาสวมไว้แทน






ที่มา: https://www.dailynews.co.th/crime/590066