สามี ผอ.อ้อย พร้อมญาติ ลุยข้ามแดนพิสูจน์ศพปริศนา แต่ทางการลาวไม่อนุญาตให้ข้ามแดน ระบุเดี๋ยวตรวจให้เอง ขณะเดียวกันวางแผนให้คนพื้นที่ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวขอตัดเนื้อเยื่อตรวจ ...
เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 19 ส.ค. ตำรวจ บก.สส.ภ.3, กก.สส.ภ.จว.ศรีสะเกษ และตำรวจกองปราบปราม พร้อมด้วยนายวิทยา เกษแก้ว อายุ 37 ปี สามี น.ส.จุฑาภรณ์ หรืออ้อย อุ่นอ่อน อายุ 37 ปี ผอ.กองการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม อบต.ชำ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ และญาติของ ผอ.อ้อย ได้ออกเดินทางจากบ้านพื้นที่ หมู่ 3 บ้านชำเม็ง อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ไปที่สมรภูมิช่องบกสามเหลี่ยมมรกต บนเทือกเขาพนมดงรัก ซึ่งมีลักษณะเป็นกึ่งกลางระหว่าง 3 ชาติ คือ ไทย ลาว และกัมพูชา จึงเรียกกันว่า "สามเหลี่ยมมรกต" พื้นที่ ต.โดมประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อตรวจสอบซากโครงกระดูกปริศนาที่แจ้งพบว่าจะใช่ของ ผอ.อ้อย หรือไม่ โดยมีกำลังทหารพราน กองร้อยทหารพราน 2302 และ 2308 หน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารพรานที่ 23 รวมถึงเจ้าหน้าที่อุทยาน คอยนำทาง และอำนวยความสะดวก
โดยล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน (ตชด.) สปป.ลาว ได้ติดต่อประสานมายังฝั่งไทยว่า ไม่อนุญาตให้ข้ามแดนไปในอธิปไตยลาว ต้องมีกระบวนติดต่ออย่างเป็นทางการในระดับประเทศ เพราะปัจจุบันนี้ ยังมีเหตุการณ์ความไม่สงบ บริเวณสามเหลี่ยมมรกต ระหว่าง สปป.ลาวกับราชอาณาจักรกัมพูชา อาจเกิดปัญหาความเข้าใจผิด หากเจ้าหน้าที่ไทยติดอาวุธข้ามพรมแดน พร้อมกับรับปากว่า จะเป็นผู้ตรวจสอบศพให้เอง แต่เจ้าหน้าที่ไทยก็ยังไม่ละความพยายาม เดินทางมุ่งหน้าต่อไป จนกว่าจะถึงชายแดน "ช่องตอกเลข" เมืองมูนละปาโมก แขวงจำปาสัก โดยต่างมีความหวังว่าเมื่อถึงพรมแดนลาวแล้ว จะให้คนพื้นที่ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัว ขอร้องเจ้าหน้าที่ สปป.ลาว อนุญาตให้ญาติพี่น้องเข้าไปดูศพนิรนาม เพื่อยืนยันให้เห็นกับตา ว่าเป็นศพ ผอ.อ้อย หรือไม่ ขณะที่ตำรวจชุดคลี่คลายคดีนั้น ก็เตรียมแผนการที่จะตัดชิ้นส่วนศพนำมาตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยได้วางเป้าหมายว่า แม้ว่าทางการลาวจะไม่ยอมให้เหยียบอธิปไตย ก็ต้องพยายามสุดความสามารถ ที่จะนำชิ้นส่วนศพกลับมาตรวจให้ได้ เพื่อทุกสิ่งอย่างจะได้คลี่คลายโดยเร็ว...
ที่มา :
https://www.dailynews.co.th/crime/592866
