ม้ไม่สูบบุหรี่ ก็มีความเสี่ยงเป็น ‘มะเร็งปอด’
หากคนที่ไม่สูบบุหรี่เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่รอบตัวของเขานั้น กลับเต็มไปด้วยคนที่สูบบุหรี่ แล้วโดนกลุ่มเพื่อนๆ บอกด้วยประโยคที่ว่า ‘อย่าสูบบุหรี่เลย เดี๋ยวเป็นมะเร็งปอดนะ’ ซึ่งก็ถือว่าเป็นคำเตือนที่หวังดีจากเพื่อนคนนั้น แต่ถ้ามาดูตามความเป็นจริงแล้วนั้น ถึงแม้ว่าตัวเราจะไม่ได้สูบก็ตามที แต่จริงๆ แล้ว ก็มีโอกาสเสียงที่จะสามารถเป็น ‘มะเร็งปอด’ ได้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นแล้ว เรามาหาดูสาเหตุกันดีกว่าว่าปัจจัยอะไรที่ทำให้เกิดได้บ้าง
พฤติกรรมเสี่ยง แม้ไม่สูบบุหรี่
1.สูดหายใจเอาควันบุหรี่เข้าปอด
พฤติกรรมนี้ มีภาวะความเสี่ยงมากที่สุด และเชื่อว่าหลายๆ คน คงอยู่ในสถานการณ์นี้เช่นกัน ทั้งจากการอยู่ในกลุ่มเพื่อน หรือ ไปเที่ยวในที่ต่างๆ แล้วยืนในท่ามกลางฝูงคนที่พ่นควันบุหรี่ตลอดเวลา ซึ่งการที่สูดควันบุหรี่เข้าปอดไป จะมีความอันตรายยิ่งกว่าตัวคนสูบบุหรี่อีก ดังนั้นวิธีการที่ง่ายที่สุด คือ เดินถอยห่างจากกลุ่มดังกล่าว หรือไม่ ก็ไล่เพื่อนให้ไปสูบที่อื่น แทน
2.กรรมพันธุ์
หากมีสมาชิกในบ้านที่เคยเป็นมะเร็งปอดมาก่อน คุณก็สามารถที่จะเป็นโรคนี้ด้วยเช่นกัน แม้ว่าคุณอาจจะไม่เคยแตะต้องบุหรี่มาก่อนเลยก็ตาม ซึ่งควรตรวจสุขภาพเป็นประจำ และควรบอกแพทย์ด้วย
3.สูดดมสารเคมีมากเกินไป
สำหรับคนที่ทำงาน หรือคนที่มีละแวกรอบบ้านเป็นแถวที่มีสารเคมีอันตราย จำพวก สารหนู ก๊าซเรดอน รังสี ไอระเหยต่างๆ หรือ ฝุ่นละอองจากเครื่องจักรอยู่ตลอดเวลา หรือ การที่ต้องอยู่กับสารเคมีที่รุนแรง, ใกล้แหล่งโรงงานที่ปล่อยของเสียทิ้งลงพื้น หรือ แหล่งน้ำที่ส่งกลิ่นเหม็นตลอดเวลา แสดงว่า คุณมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้ได้
อาการของ “มะเร็งปอด”
-มีการไอเรื้อรังโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาจจะไม่มีเสมหะในช่วงแรก แต่หากปล่อยไว้ ก็จะมีเสมหะเพราะเซลส์มะเร็งจะเริ่มอุดกั้นบยางส่วนของปอด จนเกิดเป็นมูกใส หรือ อาจมีสีเขียวหรือ เหลืองหากติดเชื้อ
-หอบเหนื่อย หายใจลำบาก
-เจ็บหน้าอก โดยเฉพาะเวลาเกร็ง หรือมีการสูดหายใจแรงๆ
รักษา “มะเร็งปอด” ยังไง
ด้านการรักษามะเร็งปอดนั้น มีอยู่หลายวิธี แต่ขึ้นอยู่กับอาการของแต่ละคนว่าอยู่ในระดับใด มีทั้งผ่าเซลส์มะเร็งออกจากปอด การใช้เคมีบำบัด ฉายรังสี หรือ การให้ภูมิคุ้มกันเพิ่ม เนื่องจากผู้ป่วยโรคดังกล่าว อาจจะมีภูมิคุ้มกันผิดปกติ ซึ่งวิธีการรักษานั้น อาจจะทำแบบเชิงเดี่ยว หรือ ควบคู่กันไป ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์นั่นเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีความเสี่ยงที่สุด ก็คือ ผู้ที่สูบบุหรี่หนัก โดยจะมีความเสี่ยงมากกว่าคนปกติ ถึง 20 เท่า ซึ่งการเลิกสูบบุหรี่ ก็อาจจะเป็นวิธีเบื้องต้นที่ช่วยห่างไกลจากโรคดังกล่าวได้ดีที่สุด
ที่มา
http://www.thaihealth.or.th
