ผู้เขียน หัวข้อ: โรคหูชั้นกลางอักเสบในเด็กเล็ก  (อ่าน 673 ครั้ง)

ออฟไลน์ beebee

  • medtech ปี เอก
  • ******
  • กระทู้: 1550
    • อีเมล์
โรคหูชั้นกลางอักเสบในเด็กเล็ก
« เมื่อ: สิงหาคม 13, 2011, 04:19:50 pm »

โดย sunanta | วันที่ 11 สิงหาคม 2554

อาการและความรุนแรงของโรคหูชั้นกลางอักเสบ

โรคหูชั้นกลางอักเสบในเด็กเล็ก

อาการปวดหูมักมาพร้อมกับอาการไข้หวัด ดังนั้น หากเด็กเป็นไข้หวัด ไม่สบาย มีไข้สูง ปวดหูมาก ถ้าเป็นเด็กเล็ก จะร้องกวน เอามือกุมหูข้างที่ปวดไว้ และอาการปวดหูอาจเป็นมากขึ้นเวลากลางคืน ควรรีบปรึกษากุมารแพทย์เพื่อตรวจหู เพราะอาจเป็นอาการของโรคหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลันและหากไม่ได้รับการรักษาในขั้นนี้ แม้ว่าระยะต่อมาอาการปวดหูจะเริ่มทุเลา ไข้เริ่มลดลง แต่เชื้ออาจหลงเหลืออยู่ การอักเสบยังคงดำเนินต่อ และเด็กอาจจะเริ่มสูญเสียการได้ยิน คือมีอาการหูอื้อ การได้ยินลดลงและพัฒนาไปสู่โรคหูชั้นกลางอักเสบชนิดมีของเหลวขัง โดยในระยะนี้แก้วหูยังไม่ทะลุ หรือหากเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบเฉียบพลันที่มีแก้วหูทะลุ แต่ไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม ทำให้มีหนองไหลเป็นๆ หายๆ มีกลิ่นเหม็น การได้ยินลดลงเรื่อยๆ จากนั้นอาจกลายเป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง ซึ่งจากการศึกษาที่คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ได้ตีพิมพ์ในวารสาร "The American Journal of Otology" พบว่าในคนที่เป็นโรคหูชั้นกลางอักเสบเรื้อรัง มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงต่างๆ ตามมา เช่น ใบหน้าเป็นอัมพาต เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ฝีในสมอง และติดเชื้อรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้ ถ้าได้รับการรักษาที่รวดเร็ว จะสามารถทำให้หายเป็นปกติได้ แต่ถ้าละเลยการรักษา เมื่อการได้ยินและประสาทหูเสื่อมลง ก็จะไม่สามารถรักษาให้กลับมาเป็นปกติได้

นอกจากนี้ โรคหูชั้นกลางอักเสบยังมีผลต่อการเรียนของเด็กด้วย เพราะพัฒนาการด้านการได้ยินนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการเรียนรู้ในด้านต่างๆ จึงอยากให้คุณพ่อคุณแม่เห็นความสำคัญของการป้องกันและรักษาโรคหูชั้นกลางอักเสบให้มากขึ้น แต่ปัญหาที่ผ่านมาก็คือ พ่อแม่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยเห็นความสำคัญของการป้องกัน แต่เน้นไปที่การรักษาโรคมากกว่า คือรอให้ป่วยก่อนแล้วจึงรักษา ควรปรับแนวความคิดนี้เสียใหม่ เนื่องจากหูอยู่ที่ฐานสมองจึงไม่ควรมองข้าม ที่เห็นว่ามันเป็นแค่การอักเสบธรรมดาของหู เพราะมีโอกาสที่เชื้อจะลามไปที่สมองได้ หากทิ้งไว้ อาจทำให้เป็นเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และฝีในสมองได้ ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว

วิธีการป้องกันโรคหูชั้นกลางอักเสบ

เริ่มจากควรให้เด็กกินนมแม่เพื่อเสริมภูมิต้านทานตามธรรมชาติ ดูแลเด็กให้มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง ไม่ให้เป็นหวัดบ่อย สอนให้เด็กมีสุขอนามัยที่ดี และหากเด็กเป็นไข้ไม่สบายและมีอาการเจ็บหู หรือเวลาพูดแล้วเด็กไม่ค่อยได้ยิน เปิดทีวีเสียงดัง ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหู และเสริมภูมิต้านทานด้วยการฉีดวัคซีนป้องกัน ซึ่งปัจจุบันมีวัคซีนที่สามารถป้องกันครอบคลุมและลดโอกาสเสี่ยงในการเกิดโรคหูชั้นกลางอักเสบ โรคปอดบวม และโรคไอพีดีที่เกิดจากเชื้อนิวโมคอคคัส และเชื้อเอ็นทีเอชไอได้แล้ว เพื่อเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกันของลูกน้อยที่ยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ ให้สามารถต่อสู้กับเชื้อโรคที่เข้ามาได้ โดยเฉพาะเด็กที่ป่วยเป็นหวัดบ่อยๆ และเด็กที่พ่อแม่นำไปฝากสถานเลี้ยงเด็ก เพราะเป็นแหล่งรวมพาหะของเชื้อโรค ที่ทำให้มีโอกาสเกิดการอักเสบติดเชื้อได้บ่อย

ในช่วงอากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยอย่างในปัจจุบัน เด็กๆ ป่วยและไม่สบายกันมาก พ่อแม่จึงควรสังเกตอาการของโรคหูชั้นกลางอักเสบ ที่นอกเหนือจากอาการแทรกซ้อนโรคไข้หวัดด้วย เพราะหากยิ่งรู้และรักษาเร็วมากเท่าไหร่ โอกาสติดเชื้อที่เยื่อแก้วหูก็จะน้อยลงเท่านั้น

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง โดย นพ.สุรพงศ์ อำพันวงษ์ เรียบเรียงข้อมูลจาก ผศ.พญ.นันทิการ์ สันสุวรรณ ภาควิชา โสต ศอ นาสิกวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

 

    ข่าวสุขภาพ
    คุณภาพชีวิต