ผู้เขียน หัวข้อ: จับแล้ว พ่อเลี้ยงติดยาข่มขืนลูกวัย 15 จนท้อง หลังเด็กแชทเฟซบุ๊กร้องปวีณา  (อ่าน 190 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์





เด็กสาว ม.2 ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่อายุกว่า 10 ขวบ จนท้อง ซ้ำพ่อเลี้ยงใส่ร้าย บอกแม่แท้ๆ ว่าเด็กใจแตกถูกข่มขืนจนท้อง หลังคลอดแผลยังไม่หายดี พ่อเลี้ยงจะข่มขืนอีก พอไม่ยอมก็ทำร้ายน้องสาวอีก 2 คน ซึ่งเป็นลูกแท้ๆ ของพ่อเลี้ยงกับแม่ตน จำต้องยอม แทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ วอนมูลนิธิปวีณาฯ ช่วยพ้นขุมนรก

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 19 เม.ย. 61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่มีสาวอายุ 15 ปี แอบแชทเฟซบุ๊กมาที่แฟนเพจเฟซบุ๊กของมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี โดยมีใจความว่า วันอังคารที่ 30 มี.ค. 61 น.ส.หนิง (นามสมมติ) อายุ 15 ปี ถูกพ่อเลี้ยงติดยาข่มขืนตั้งแต่อายุ 10 ขวบ แม่แท้ๆ ก็ไม่สนใจ ไปทำงานนวดแผนไทยที่ต่างประเทศ

กระทั่งตั้งท้องกับพ่อเลี้ยงจนปัจจุบันคลอดลูกสาวออกมาได้ 3 เดือนแล้ว ซึ่งพ่อเลี้ยงมีพฤติกรรมเสพยาเสพติด จะข่มขืนตนอยู่บ่อยครั้ง และกักขังบังคับให้อยู่แต่ในบ้านพักในพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

ตนต้องเลี้ยงลูกและอยู่กับน้องสาวต่างบิดาอีก 2 คน อายุ 10 ขวบ และอายุ 4 ขวบ ถ้าวันไหนไม่ยอมให้ข่มขืน พ่อเลี้ยงก็จะระบายอารมณ์ทุบตีน้อง 2 คน เพื่อบีบบังคับให้ตนเองยอมทำตาม แถมยังใส่ร้ายบอกกับแม่และชาวบ้านว่า ตนเป็นเด็กใจแตก เที่ยวเตร่ถูกข่มขืนจนท้องไม่มีพ่อ

น.ส.หนิง เล่าว่า หนูเกิดมาไม่เคยเห็นหน้าพ่อแท้ๆ เพราะพ่อเลิกกับแม่ไปตั้งแต่แม่ตั้งท้องหนู พอหนูอายุได้ 2 ขวบ แม่ก็มีสามีใหม่ชื่อ นายดำ (นามสมมติ) ทำงานเป็นพนักงานรับจ้างเก็บขยะ และแม่ก็มีลูกใหม่กับพ่อเลี้ยงอีก 2 คน เป็นเด็กผู้หญิง

และหนูก็ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนตั้งแต่อายุ 10 กว่าขวบ ตอนที่แม่ไม่อยู่บ้าน ซึ่งหนูกลัวมาก เมื่อหนูพยายามบอกเรื่องนี้กับแม่ พ่อเลี้ยงก็จะหาเรื่องดุด่าทุบตีแม่กับน้อง จนทำให้หนูไม่กล้าพูด

ต่อมาเมื่อต้นปี 2560 แม่ก็ทิ้งหนูไปทำงานนวดแผนไทยที่ประเทศเกาหลี ซึ่งหนูกำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 ปล่อยให้หนูอยู่กับพ่อเลี้ยงและน้องอีก 2 คน อายุ 10 ขวบ และอายุ 4 ขวบ

หลังจากนั้นหนูก็ถูกพ่อเลี้ยงข่มขืนเรื่อยมา ถ้าหากวันไหนหนูไม่ยอม พ่อเลี้ยงก็จะตีน้องทั้ง 2 คน เพื่อบีบบังคับหนู และหนูก็ต้องจำใจยอมทุกครั้ง เพื่อไม่อยากเห็นน้องเจ็บ จนกระทั่งหนูตั้งท้องกับพ่อเลี้ยง พ่อเลี้ยงก็โทร.ไปบอกแม่ที่เกาหลีว่า หนูใจแตก ถูกคนอื่นข่มขืนจนตั้งท้อง

หาว่าหนูทำตัวไม่ดี บังคับจะให้หนูออกจากโรงเรียน แม้หนูจะโทร.ไปบอกกับแม่ และเล่าความจริงให้ฟัง แต่ก็เหมือนแม่จะเชื่อพ่อเลี้ยงมากกว่าที่จะเชื่อหนู หนูต้องอุ้มท้องทนอยู่กับพ่อเลี้ยง เพราะไม่รู้จะไปไหน และไม่อยากทิ้งน้อง 2 คนไว้

จนเมื่อเดือน ม.ค. 61 หนูเพิ่งคลอดลูกออกมาใหม่ๆ ขณะที่แผลคลอดยังไม่ทันหายดี พ่อเลี้ยงก็จะข่มขืนหนู เมื่อหนูไม่ยอม พ่อเลี้ยงก็จะเดินไปเตะน้องทั้ง 2 คนให้หนูดู น้องร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด จนหนูต้องยอมให้เขาอีก

ทุกวันนี้พ่อเลี้ยงจะเสพยาหนักขึ้น มักมีอารมณ์ฉุนเฉียว เมื่อกลับมาก็จะดุด่าทุบตีน้องของหนูเป็นประจำ และจะข่มขืนหนูบ่อยครั้งขึ้น หนูแทบทนไม่ไหว ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ แต่เมื่อรู้ข่าวว่า มูลนิธิปวีณาให้การช่วยเหลือเด็กและสตรีที่ถูกข่มขืนและถูกกระทำทารุณ จึงได้แอบติดต่อมา ขอให้หนูพ้นจากขุมนรกนี้ด้วย

หลังรับเรื่อง นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาเพื่อเด็กและสตรี ประสาน พ.ต.อ.สุระพรรณ นาทวรทัต รอง ผบก.จ.สมุทรสาคร และ นางสาวกนิษฐา บุญยัง หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดสมุทรสาคร ก่อนส่งเจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาฯ ลงพื้นที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก จ.สมุทรสาคร และตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร

เมื่อไปถึงบ้านของพ่อเลี้ยง พบนางสาวหนิงกำลังนั่งเลี้ยงลูกและน้องๆ อยู่อีก 2 คน แต่ไม่พบตัวพ่อเลี้ยง เด็กๆ บอกพ่อเลี้ยงออกไปข้างนอก เมื่อนางสาวหนิงรู้ว่า เจ้าหน้าที่มูลนิธิปวีณาและเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก จ.สมุทรสาคร และตำรวจ สภ.เมืองสมุทรสาคร มาช่วย ก็ดีใจเป็นอย่างมาก

เจ้าหน้าที่จึงอาศัย พ.ร.บ.คุ้มครองเด็กเข้าช่วยเหลือนางสาวหนิงและลูกน้อยออกมาจากบ้าน ก่อนพาไป สภ.เมืองสมุทรสาคร แจ้งความดำเนินคดีกับพ่อเลี้ยง ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนางสาวหนิงและลูกไปตรวจร่างกาย เพื่อเก็บหลักฐานร่องรอยการถูกทำร้าย และดีเอ็นเอลูกน้อย เพื่อตรวจยืนยันความเป็นพ่อลูกกับพ่อเลี้ยง พร้อมนัดสอบสหวิชาชีพ รวบรวมพยานหลักฐาน ขออนุมัติออกหมายจับพ่อเลี้ยงมาดำเนินคดีต่อไป

ความคืบหน้าล่าสุด นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี กล่าวว่า ขณะนี้ พ.ต.อ.จิระวุฒิ ตัณฑศรี ผกก.สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้จับตัวพ่อเลี้ยงคนนี้ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 10 เม.ย. 61 ที่ผ่านมา ในบ้านพักที่ ต.นาดี อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

ส่วนแม่ของนางสาวหนิง ทางมูลนิธิปวีณาฯ ได้ประสานให้กลับมาที่บ้านแล้ว และได้รับตัวลูกสาว อายุ 10 ขวบ และอายุ 4 ขวบ ไปฝากให้ญาติเลี้ยงแล้ว ส่วนนางสาวหนิงซึ่งต้องการเรียนต่อ ทางบ้านพักเด็ก จ.สมุทรสาคร ก็จะหาที่เรียนให้

สำหรับสถิติเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวปี 2560 ที่ทางมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรีได้รับเรื่องราวร้องทุกข์ และให้การช่วยเหลือนั้น มีทั้งหมด 8,755 เรื่อง คดีข่มขืนและอนาจารทั้งหมด 633 ราย และปัญหาครอบครัว 2,010 ราย

ผู้กระทำความผิด ข่มขืน กระทำชำเรา แบ่งเป็น

คนรู้จัก 262 ราย

ญาติ 69 ราย

พ่อเลี้ยง 59 ราย

และปัญหาครอบครัวที่ทางมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ได้ให้การช่วยเหลือนั้นจะเพิ่มขึ้นทุกปี ส่วนมากมาจากสถาบันครอบครัว ที่พ่อแม่แตกแยกกัน รวมทั้งปัญหาสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย จึงอยากให้หน่วยงานหลายๆ แห่ง เข้ามาช่วยกันแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น





ที่มา...https://www.sanook.com/news/6125582/