ผู้เขียน หัวข้อ: ผัวแทงเมีย-ใช้สากทุบหัวดับ ก่อนตายตาม ลูกสาว 9 ขวบ มาช่วยแม่ ถูกมีดปาดเอ็นข้อมือ  (อ่าน 227 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์





ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (14 พ.ค.) สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ได้รับแจ้งเหตุมีคนฆ่ากันตาย ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 1 ต.สตึก อ.สตึก ถนนประชาบูรณะ ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ บ้านเช่าหลังที่ 6 ภายในซอยไม่มีชื่อ

เมื่อเข้าไปตรวจสอบภายในบ้านพบศพ นายสมพงษ์ อายุ 50 ปี สภาพนอนหงายเสียชีวิตหน้าห้องน้ำ มีบาดแผลถูกแทงที่ราวนมด้านซ้าย 3 แผล สะดืออีก 3 แผล นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา บนขื่อหน้าห้องน้ำพบเชือกไนล่อนสีเขียวมัดอยู่ด้วย ที่หน้าประห้องน้ำพบมีดทำครัวปลายแหลมยาวประมาณ 30 ซ.ม.เปื้อนเลือด วางอยู่บนกล่องกระดาษ

บริเวณหน้าบ้านชั้นล่างหน้าทีวีพบกองเลือดนองเต็มพื้น ซึ่งเป็นเลือดของ นางเสาวลักษณ์ อายุ 44 ปี ซึ่งเป็นภรรยาของนายสมพงษ์ คาดว่าถูกใช้ของมีคมแทง ได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตระหว่างนำส่ง รพ.สตึก เนื่องจากทนพิษบาดแผลไม่ไหว  เมื่อตรวจสอบสภาพศพภายหลังพบมีบาดแผลบริเวณลำคอ 

และยังพบว่า เด็กหญิงเอ (นามสมมุติ) อายุ 9 ปี ลูกสาวของนางเสาวลักษณ์ ผู้เสียชีวิต ซึ่งพยายามเข้าห้ามพ่อไม่ให้ทำร้ายแม่ ถูกมีดปาดที่ข้อมือด้านซ้ายจนเอ็นขาด ถูกนำส่งต่อ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างละเอียด พร้อมเก็บมีดปลายแหลม 1 เล่ม และสากหิน 1 อันเปื้อนเลือดไว้เป็นหลักฐาน

สอบถาม นายรัฐพล อายุ 40 ปี เจ้าของบ้านเช่า เล่าว่า ช่วงก่อนรุ่งเช้าได้ยินเสียงคนตะโกนขอความช่วยเหลือมีคนถูกแทง ที่บ้านเช่าหลังที่ 6 หลังท้ายสุดซอย จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ แล้วรีบออกไปช่วยเหลือ

พบนายสมพงษ์ ผู้ตาย แขวนคอกับขื่อไม้หน้าห้องน้ำ ด้วยเชือกไนลอนสีเขียว จึงช่วยกันนำร่างลงมาวางกับพื้น ที่บริเวณพื้นหน้าบ้านพบนางเสาวลักษณ์ บาดเจ็บสาหัส นอนหายใจรวยริน จึงรีบนำส่ง รพ.สตึก และเสียชีวิตในเวลาต่อมา และเด็กหญิงเอ ได้รับบาดเจ็บที่ข้อแขนซ้าย 

จากการสอบสวน นายแดง (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี ลูกชาย นางเสาวลักษณ์ ผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนมีพี่น้อง 2 คน ส่วนนายสมพงษ์ เป็นพ่อเลี้ยง มาอยู่กินกับแม่ได้ประมาณ 2 ปี อาศัยบ้านเช่าร่วมกัน 4 คน แม่และพ่อเลี้ยงมีอาชีพขายกับข้าวให้แก่พนักงานห้างแห่งหนึ่ง สาขาสตึก

พ่อเลี้ยงดื่มเหล้าเป็นประจำ แล้วมักทะเลาะกับแม่บ่อยครั้ง จนแม่ยื่นคำขาดไม่ให้มาอยู่ด้วยและพยายามตีตัวออกห่าง แต่พ่อเลี้ยงก็ไม่ยอมหนีไปไหน ก่อนเกิดเหตุพ่อเลี้ยงกับแม่ทะเลาะกันเสียงดังลั่นบ้าน ก่อนตนขึ้นไปนอนชั้นบนเห็นแม่ลงมานอนกับพื้นห้องหน้าบ้าน พ่อเลี้ยงและน้องสาวกางมุ้งนอนกับพื้น

จนกระทั่งก่อนสว่าง ได้ยินเสียงน้องร้องไห้เสียงดังลั่นมืออาบเลือด วิ่งขึ้นมาหาตนหน้าตาตื่นขึ้นมาชั้นบน บอกว่า แม่ถูกพ่อแทง จึงรีบลงมาดูเห็นแม่นอนหายใจรวยรินจมกองเลือดอยู่กับพื้น ที่หน้าห้องน้ำเห็นพ่อเลี้ยงผูกคอติดกับขื่อ จึงตะโกนขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้านมาช่วย ตนและเจ้าของบ้านเช่านำน้องและแม่ส่ง รพ.สตึก แต่แม่เสียชีวิต ส่วนน้องถูกนำส่งต่อ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ เนื่องจากเอ็นข้อมือขาด

พ.ต.ท.จำรัส ศิริเลี้ยง รอง ผกก.ป.สภ.สตึก เปิดเผยว่า จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ตายทั้งคู่มักจะมีปากเสียงกันอยู่เป็นประจำ เพราะสามีชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ ภรรยาเคยไล่ออกจากบ้านแต่ก็กลับมาอยู่ด้วยกัน ก่อนเกิดเหตุ ได้ดื่มเหล้าคงดื่มย้อมใจ ก่อนตัดสินใจใช้มีดปาดคอภรรยาเสียชีวิต แล้วใช้มีดแทงกระหน่ำตัวเองหลายแผล แต่คงไม่ตายทันที จึงหาเชือกมาแขวนคอตนเองให้ตายตามภรรยา

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสอบปากคำจาก เด็กหญิงไก่ ที่เดินทางไปรักษาตัวที่ รพ.ศูนย์บุรีรัมย์ ส่วนนายแดง ลูกชายผู้ตาย จะได้เชิญตัวไปสอบปากคำอีกครั้งหนึ่งฐานะผู้อยู่บ้านเดียวกัน ต่อมาทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงพื้นที่เกิดเหตุ มาเก็บหลักฐานเพิ่มเติม





ที่มา...https://www.sanook.com/news/6432678/