ผู้เขียน หัวข้อ: กระเพาะปัสสาวะอักเสบอาจร้ายกว่าที่คิด  (อ่าน 806 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์





เมื่อกล่าวถึงโรคในกลุ่มผู้หญิงวัยทำงานแล้ว โรคที่แพทย์พบได้บ่อยคงหนีไม่พ้นโรค “กระเพาะปัสสาวะอักเสบ” หรือ Cystitis ซึ่งพบมากในผู้หญิงช่วงอายุ 20-50 ปี

 

 

ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมีได้หลายสาเหตุ ตั้งแต่การกลั้นปัสสาวะนานๆ การดื่มน้ำน้อย โรคเบาหวาน ผู้สูงอายุ ผู้ที่ใส่สายสวนปัสสาวะ ผู้มีภาวะอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ เช่น ท่อปัสสาวะตีบ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ เนื้องอกในช่องท้อง โดยอาการที่ต้องสงสัย และมักทำให้ผู้หญิงต้องมาพบแพทย์ คือ อาการตึงหรือปวดหน่วงท้องน้อย มีอาการปัสสาวะบ่อยปัสสาวะครั้งละน้อยๆ มีปัสสาวะแสบขัด ปวดเสียดตอนถ่ายสุด ปัสสาวะมีเลือดปน ปัสสาวะสีขุ่น มีกลิ่นฉุนหรือเหม็นผิดปกติ ในบางรายอาจพบว่ามีก้อนนิ่วหลุดปนมากับปัสสาวะได้ด้วย

 

 

การวินิจฉัย ทำได้ง่ายๆ คือ จากประวัติอาการข้างต้นร่วมกับการตรวจปัสสาวะ โดยวิธีการเก็บปัสสาวะเพื่อทำการตรวจหาว่ามีเม็ดเลือดขาวและเม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติหรือไม่ ในรายที่เป็นเรื้อรังอาจจะต้องเอาปัสสาวะไปเพาะเชื้อดูชนิดของแบคทีเรียนั้นด้วย

 

 

แนวทางการรักษา คือ รับประทานยาปฏิชีวนะตามระยะเวลาที่แพทย์สั่งประมาณ 3-5 วัน แต่ถ้ารับประทานยาครบแล้วอาการไม่ดีขึ้น อาจจะเพิ่มเป็น 7-10 วันได้ จากนี้ก็ควรปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันการเกิดโรคซ้ำ ด้วยการหมั่นรักษาความสะอาดบริเวณช่องคลอด ท่อปัสสาวะ และทวารหนัก ดื่มน้ำมากขึ้นอย่างน้อย 8-10 แก้ว ไม่ควรกลั้นปัสสาวะไว้นานๆ ผู้ป่วยที่มีอาการอักเสบบ่อยๆ เรื้อรัง ควรพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุแอบแฝงอื่นๆ

 

 

โดยทั่วไปกระเพาะปัสสาวะอักเสบเป็นโรคที่ไม่รุนแรงและสามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ถ้ามีอาการมากแล้วไม่ไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาที่ถูกต้อง อาจลุกลามรุนแรงถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือด ดังนั้นการป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด





ที่มา...http://health.haijai.com/4268/