ผู้เขียน หัวข้อ: พี่ชาย “สปาย” ช็อกสติหลุด! แม่ขนลุกทีวีเปิดเองช่วงญาติออกรายการ – “ฟอส” โผล่ปลอบ  (อ่าน 236 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์





ภายหลังจากเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาจอมเทียน ได้ควบคุมตัวนายกฤษณะ หรือ นายมด ผู้ต้องหา ไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ที่บริเวณหน้าผาเขาชีจรรย์ และบ้านเช่าที่นายมดพากลุ่มผู้ต้องหาไปพักอาศัย โดยนายมดได้กล่าวขอขมากับครอบครัวผู้เสียชีวิต และให้การภาคเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของ นายปัญญา หรือ เสี่ยอ้วน

วันที่ 7 ส.ค. 61 นางบังอร แม่ค้าขายผลไม้บริเวณเขาชีจรรย์ เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุ จนกระทั่งวันนี้เกือบ 10 วันแล้ว แม้ช่วงแรกที่มีข่าวคนร้ายก่อเหตุยิงกัน จะทำให้นักท่องเที่ยวลดน้อยลง แต่ช่วงนี้เริ่มกลับมามีนักท่องเที่ยวมาอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าช่วงวันหยุดยาวในสัปดาห์หน้า บรรยากาศที่เขาชีจรรย์ นักท่องเที่ยวจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง

นางบังอร กล่าวต่อว่า มีนักท่องเที่ยวชาวไทยหลายคน มาสอบถามตนเช่นกันว่ามีเหตุยิงกันตรงจุดใด ซึ่งนักท่องเที่ยวหลายรายยอมรับว่ากลัว ตนก็พูดปลอบใจว่าไม่ต้องกลัว เพราะเขาตายไปแล้ว ก็เหมือนหลับไป ซึ่งทางพ่อค้าแม่ค้าก็จะมีการรวมตัวกันนิมนต์พระ มาทำบุญให้น้องสปายและน้องฟอส ในวันเสาร์ที่ 11 ส.ค. นี้ เพื่อส่งดวงวิญญาณให้น้องทั้ง 2 คน

นางบังอร เล่าว่า หลังเกิดเหตุไม่กี่วัน ขณะตนกำลังขายของ ตนได้ยินเสียงผู้หญิงร้องเรียก “ป้า” จากนั้นตนก็นั่งหาวจนน้ำตาไหล จึงรีบกลับบ้านไปสวดมนต์แผ่เมตตา ทำให้เชื่อว่าวิญญาณของน้องสปายยังวนเวียนอยู่ที่นี่

นอกจากนี้ เรื่องที่นายกฤษณะ หรือ นายมด มาขอขมาผู้ตายที่จุดเกิดเหตุ ส่วนตัวตนเชื่อว่าผู้ต้องหามีความรู้สึกผิดต่อน้องทั้ง 2 คนจริง และคงสำนึกผิด แต่หากจะให้ดีควรให้มีการจุดธูปบอกกล่าวดวงวิญญาณด้วย เพื่อให้กลิ่นธูปสื่อไปถึงผู้ตาย

อย่างไรก็ตาม ภายหลังจับผู้ต้องหาได้ 5 คน ตนเองก็รู้สึกอุ่นใจมากขึ้น เพราะตำรวจก็ทำงานค่อนข้างรวดเร็ว ซึ่งเหตุการณ์ยิงกันในครั้งนี้สร้างความตกใจและหวาดกลัวกับพ่อค้าแม่ค้าอย่างมาก

ขณะที่ น.ส.วันเพ็ญ แม่ของสปาย เปิดเผยว่า ถ้าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะพาตัวเสี่ยอ้วนมาขอขมาหรือขอโทษหากจับตัวได้แล้ว ตนมองว่าไม่มีความจำเป็น เพราะน้องสปายก็เสียไปแล้ว เพียงตนต้องการฟังจากปากของเสี่ยอ้วนว่าทำไมถึงต้องตัดสินใจทำแบบนี้ และหากจะนำผู้ต้องหารายอื่นมาขอขมาก็ไม่จำเป็นเช่นเดียวกัน

น.ส.วันเพ็ญ พูดด้วยน้ำตาว่า การที่นายณรงค์ หรือ บ่าว ผู้ต้องหา ได้รับสารภาพว่าไม่มีเจตนาจะยิงทั้ง 2 คนนั้น ตนอยากถามว่าถ้าไม่ตั้งใจจะยิง ทำไมถึงยิงได้มากกว่า 1 นัด และยิงเข้าไปยังจุดสำคัญทั้งหมด ทั้งหัว ลำคอ แม้กระทั่งด้านหลัง จนกระสุนทะลุร่าง

อย่างไรก็ตาม จนถึงวันนี้ที่บ้านยังไม่มีใครรับกับสภาพที่เกิดได้ พ่อของสปายก็ไม่กล้ามองรูปน้องสปาย หรือเดินผ่านห้องนอนของสปาย กินไม่ได้นอนไม่หลับเหมือนกับแม่

ส่วนพี่ชาย หลังจากช็อกหนัก ร้องไห้ไม่หยุด เมื่อวันที่เจอศพน้องสาว ก็ทำให้อยู่ในอาการเหมือนคนสติแตก หวาดกลัวคนแปลกหน้าว่าจะเข้ามาทำร้ายคนในครอบครัวซ้ำ ซึ่งคาดว่าหลังจากเดินทางกลับจาก จ.ชลบุรี เพื่อไปให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ ตนจะพาพี่ชายของสปายไปตรวจสุขภาพจิต ที่โรงพยาบาลขอนแก่น

น.ส.วันเพ็ญ เล่าต่อว่า เมื่อวานที่ผ่านมา (6 ส.ค.) ช่วงที่รายการต่างคนต่างคิด กำลังออกอากาศทางอมรินทร์ ทีวี ช่อง 34 เวลา 18.20 น. ที่มีการสัมภาษณ์พี่สาวของฟอสนั้น โทรทัศน์ในบ้านก็เปิดขึ้นเอง โดยที่ไม่มีใครไปเปิด หรือจับรีโมท

ซึ่งทำให้ทุกคนเดินเข้าไปในบ้าน เพื่อมานั่งดูช่วงที่พี่สาวสปายตอบคำถาม และที่ทนายความกำลังชี้แจงข้อกฎหมาย ประกอบกับคำอธิษฐานของตนเมื่อคืนที่ผ่านมาก่อนนอน ที่ขอให้ดวงวิญญาณน้องสปายและฟอส ไปช่วยเจ้าหน้าที่ตามตัวเสี่ยอ้วนมารับผิดให้ได้

ด้าน นางสาวจอมศรี แม่ของฟอส ยังคงร้องไห้เสียใจทุกครั้งที่พูดถึงคดีและการเสียชีวิตของฟอส ส่วนกรณีหนึ่งในผู้ต้องหาในคดียิงฟอส-สปายที่จังหวัดชลบุรี ขอให้ญาติของทั้ง 2 คนรับคำขอขมา และสำนึกผิดหลังได้กระทำการลงไปนั้น แม่ฟอสบอกว่า วันนี้ตนเองขอเปลี่ยนใจยอมรับคำขอขมา และให้ทั้งหมดได้รับโทษตามที่พวกเขาได้ทำลงไป “แม่ยอมยกโทษให้เขา และชาติหน้าฉันใด ก็อย่าได้ทำกับน้องแบบนี้”

ซึ่งวันที่ตนไปชลบุรีก็จะเปิดโอกาสให้เข้ามาขอขมา ที่ยอมครั้งนี้ เพื่อฟอสจะได้หมดห่วงไม่เป็นบาปหรือมีเวรมีกรรมต่อกัน รวมถึงเสี่ยอ้วน ตนเองก็พร้อมให้อภัยเช่นเดียวกัน พร้อมจะถามกลับเสี่ยอ้วนว่า ทำไมถึงทำกับน้องแบบนี้ และถามว่าถ้าเป็นลูกของเสี่ยอ้วนจะทำอย่างไร ส่วนจะมาจ่ายชดใช้อะไรนั้น ตนเองไม่อยากรับ และไม่อยากได้ทั้งสิ้น แต่ยืนยันให้ได้รับโทษเหมือนที่ทำกับน้อง ได้รับโทษประหาร ไม่ว่าจะเป็นเสี่ยอ้วนหรือใครก็ตาม ที่เข้ามาเกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ แม่ฟอส ยังเล่าว่า วันนี้ได้มีโอกาสไปพบกับพระอาจารย์ ซึ่งเป็นพระที่ครอบครัวเคารพนับถือ ท่านได้สื่อสารถึงฟอส โดยฟอสบอกว่า “แม่อย่าร้องไห้นะ ฟอสเป็นห่วง หนูสร้างพื้นฐานให้แม่นะ แต่หนูทำต่อไม่ได้ แม่อย่างร้องไห้ เดียวหนูจะไม่ได้ไปไหนนะ ห่วงแม่ ห่วงครอบครัว” และพระอาจารย์ยังบอกอีกว่า ลูกเขาจะไม่ได้ไปไหน โยมต้องไม่ร้องไห้ เขาห่วงครอบครัวมา เขาทำบุญมาแค่นี้

อย่างไรก็ตาม แม่ของฟอสบอกว่า ตอนนี้ตนเองเตรียมพร้อมแล้วที่จะไปขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ช่วยให้คดีมีความคืบหน้า โดยเตรียมของพื้นบ้านที่มี อาทิ ข้าวเหนียว หน่อไม้ ปลาร้าบอง ไปมอบให้แทนคำขอบคุณ โดยจะเดินทางไปถึงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 9 ส.ค.นี้





ที่มา...https://www.sanook.com/news/7472226/