ผู้เขียน หัวข้อ: เด็กหญิงวัย 13 ปี รอดปาฏิหาริย์! เห็นคาตา กลุ่มคนร้ายบุกฆ่าพ่อ-แม่เจ็บสาหัส  (อ่าน 338 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์




กลุ่มคนร้าย 6 คน บุกก่อเหตุทำร้ายร่างกายสามีภรรยาชาวไทยเชื้อสายมอญถึงในบ้าน สามีตาย-ภรรยาเจ็บสาหัส ขณะที่ลูกสาววัย 13 ปี แอบอยู่หลังประตูจึงรอด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (4 ต.ค.) เมื่อเวลา 22.15 น. ได้เกิดเหตุคนร้ายจำนวน 6 คน ใช้รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน เป็นยานพาหนะในการก่อเหตุ บุกทำร้ายร่างกาย นายเม็ด ไม่มีนามสกุล อายุ  40 ปี และนางสาวชะเอม ไม่มีนามสกุล อายุ 42 ปี สองสามีภรรยา ซึ่งเป็นชาวไทยเชื้อสายมอญ ที่มาทำงานรับจ้างและเปิดร้านขายของชำในจังหวัดกาญจนบุรี อยู่ที่หมู่ 6 บ้านป่ายุบ ตำบลปากแพรก อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรี

โดยนายเม็ดถูกทำร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่นางสาวชะเอมซึ่งเป็นภรรยาได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่มูลนิธิพิทักษ์กาญจน์ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลให้แพทย์ช่วยยื้อชีวิตอย่างเร่งด่วน

โดยเด็กหญิงวริศรา อายุ 13 ปี ซึ่งเป็นลูกสาวของนายเม็ดและนางสาวชะเอม เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า เมื่อช่วงเวลาประมาณ 22.15 น. ขณะที่นางสาวชะเอม กำลังนั่งคิดเงินจากการขายของอยู่ภายในร้าน ได้มีกลุ่มชายไม่ทราบชื่อจำนวน 6 คน สวมใส่หมวกกันน็อกปิดบังใบหน้า บุกเข้ามาภายในร้าน ก่อนจะลงมือใช้ไม้ทุบตีและใช้อาวุธมีคมฟันนางสาวชะเอมจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

เมื่อนางสาวชะเอมร้องขอความช่วยเหลือ นายเม็ดซึ่งกำลังอยู่ในห้องนอนกับเด็กหญิงวริศรา พยายามจะออกมาช่วยภรรยาที่ถูกทำร้าย แต่ก็ถูกกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามาใช้ไม้ตีและใช้มีดฟันจนเสียชีวิต ขณะที่เด็กหญิงวริศรา ถูกประตูห้องนอนที่คนร้ายพังเข้ามาบังร่างเอาไว้ จึงไม่ถูกทำร้ายและสามารถรอดชีวิตมาเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวได้

โดยหลังก่อเหตุ คนร้ายทั้ง 6 คน ได้ขี่รถจักรยานยนต์ที่สตาร์ทเครื่องทิ้งไว้ ขับหลบหนีออกไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี กำลังเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด ในจุดที่คาดว่าคนร้ายใช้เป็นเส้นทางในการเข้ามาก่อเหตุ และใช้เป็นเส้นทางหลบหนี เพื่อติดตามหารถที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุเป็นหลักฐานในการติดตามตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ทราบมูลเหตุในการก่อเหตุของคนร้าย เนื่องจากลูกสาวของผู้ได้รับบาดเจ็บแลเสียชีวิต ยืนยันว่า ที่ผ่านมา พ่อและแม่ของตนไม่เคยมีปัญหากับใครมาก่อน ขณะที่หลังเกิดเหตุ คนร้ายไม่ได้แตะต้องทรัพย์สินของทั้งสองคนแต่อย่างใด จึงไม่น่าจะใช่เรื่องของการชิงทรัพย์

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสอบปากคำเพื่อนร่วมงานของผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตเพิ่มเติม เพื่อหามูลเหตุในการก่อเหตุของคนร้าย รวมทั้งติดตามจับกุมตัวคนร้ายที่ก่อเหตุทั้ง6คนมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป




ที่มา...https://www.sanook.com/news/7530370/