ผู้เขียน หัวข้อ: นักท่องเที่ยวระวัง! อดีตทาสยาบ้าไม่สำนึก ก่อเหตุชิงกระเป๋าเลขาสาวในวัดธาตุพนม  (อ่าน 332 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์


เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2561 พ.ต.อ.จุลฤทธิ์ จุลกะ ผกก.สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม ระดมกำลังตำรวจชุดสืบสวนเร่งติดตามจับกุมคนร้าย หลังมีผู้เสียหายคือ นางนงนุช แก้วมณีชัย อายุ 50 ปี แจ้งว่ามีคนร้ายได้ก่อเหตุขโมยกระเป๋าที่วางไว้ขณะนำคณะประชาชน นักท่องเที่ยว และคนสำคัญมาทำบุญ

ภายในบริเวณวัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร อ.ธาตุพนม จ.นครพนม คนร้ายฉวยโอกาสขโมยกระเป๋าสิ่งของมีค่าที่วางไว้ วิ่งหลบหนีไป ภายในมีทรัพย์สินคือ สร้อยคอทองคำ 3 บาท เงินสดจำนวน 800 บาท พระเลี่ยมทอง 1 องค์ และแท็บเล็ต 1 เครื่อง เจ้าหน้าที่จึงได้ลงพื้นที่เร่งสืบสวนติดตาม จนกระทั่งสามารถติดตามจับกุมได้

หลังพบหลักฐานมีการนำกระเป๋าสิ่งของมีค่า และแท็บเล็ตทิ้งไว้บริเวณหลังวัด และมีการนำสร้อยคอทองคำ เงินสดหนีไป ก่อนมีการระดมกำลังค้นหา พบคนร้ายหลบซ่อนบนต้นไม้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงปิดล้อมจับกุมตัวไว้ได้ ตรวจค้นพบของกลางสร้อยคอทองคำผู้เสียหายหนัก 3 บาท และเงินสด 800 บาท จึงควบคุมตัวมาสอบสวน

เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบชื่อคนร้ายคือ นายพรพัฒน์ อายุ 54 ปี พบประวัติอาชญากรรมโชกโชน เคยถูกดำเนินคดีข้อหาลักทรัพย์ในเวลากลางคืน และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ในพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เมื่อปี 2552 ถูกศาลตัดสินจำคุก 1 ปี

หลังพ้นโทษออกมาได้ตกงานจึงตระเวนหางานทำ ก่อนตัดสินใจมาพึ่งบารมีองค์พระธาตุพนม หารายได้จากการจำหน่ายปลา จำหน่ายเต่า แก่นักแสวงบุญ ตั้งแต่ปี 2554 สุดท้ายไม่สำนึก และมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดเสพยาบ้าอีกเลิกไม่ได้ จึงคิดหาทางรวยทางลัดฉวยโอกาสขโมยกระเป๋านักท่องเที่ยวที่นำทรัพย์สินมีค้ามาด้วย

พ.ต.อ.จุลฤทธิ์ จุลกะ ผกก.สภ.ธาตุพนม จ.นครพนม ฝากแจ้งเตือนไปยังประชาชน นักท่องเที่ยว และนักแสวงบุญที่มาทำบุญ ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ให้ระมัดระวัง หมั่นตรวจสอบดูแลทรัพย์สินของมีค่าที่ติดตัวมาด้วย ห้ามวางไว้โดยไม่มีคนดูแล เพราะอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพที่แฝงตัวมา

นอกจากนี้ทางตำรวจจะได้เพิ่มมาตรการเข้ม จัดกำลังคอยดูแลตรวจสอบเข้มงวดมากขึ้น พร้อมตรวจสอบดูแลบุคคลที่มายึดอาชีพหารายได้กับนักแสวงบุญที่อาจจะมีมิจฉาชีพแฝงมาด้วย อย่างไรก็ตามทางตำรวจจะได้เร่งหาทางดูแลป้องกันไม่ให้ก่อเหตุซ้ำอีก



ที่มา...https://www.sanook.com/news/7530498/