ผู้เขียน หัวข้อ: หนุ่มซิ่งรถเสียหลักชนต้นไม้ หมวกกันน็อกกระจุยดับคาที่ สังเวยถนนมรณะ  (อ่าน 251 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์




วันที่ 9 มกราคม 2562 เมื่อเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.กฤษดา สุพรรณกูล สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองนครพนม รับแจ้งมีเหตุรถ จยย.เสียหลักชนต้นไม้ ที่บริเวณริมถนนหลวงหมายเลข 2033 สายหนองญาติ-นาแก ช่วงบ้านคำธาตุ ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม
จึงประสานแพทย์เวร รพ.นครพนม เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม กู้ภัยนครพนม กู้ชีพเทศบาล ต.หนองญาติ และกู้ชีพ อบต.โพธิ์ตาก ร่วมตรวจสอบช่วยเหลือ

โดยในที่เกิดเหตุริมถนนดังกล่าว ฝั่งมุ่งหน้าไปยัง อ.นาแก พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีดำ ทะเบียน 1กค3705 นครพนม สภาพชนกับต้นไม้ริมถนน พังเสียหายหนักล้มคว่ำอยู่ริมถนน

ใกล้กันพบสภาพศพคนขับนอนเสียชีวิตในสภาพนอนหงาย สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ ทับด้วยเสื้อกันหนาวแขนยาวสีแสด สวมกางเกงขายาวสีดำ ตรวจสอบสภาพศีรษะมีบาดแผลฉกรรจ์ เลือดไหลเต็มใบหน้า เจ้าหน้าที่จึงชันสูตรเก็บหลักฐาน

นอกจากนี้ยังพบหมวกกันน็อกสีดำของผู้ตายแตกกระจุยติดอยู่บนต้นไม้ คาดว่าพุ่งชนกระแทกต้นไม้อย่างแรง จนหมวกกันน็อกแตกกระจายหลุดออกจากศีรษะ สันนิษฐานว่าน่าจะคอหัก ทราบชื่อภายหลังคือนายอนุสรณ์ อายุ 28 ปี ชาวบ้านเหล่าภูมี หมู่ 7 ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม

หลังเกิดเหตุได้มีนางนิตยา อายุ 45 ปี มารดาของผู้ตาย และน้องสาวของผู้ตายเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ เมื่อพบเห็นศพของลูกชายและพี่ชาย ต่างร้องไห้แทบจะขาดใจ สร้างความหดหู่กับผู้พบเห็นเป็นอย่างมาก

เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะผู้ตายได้ขับรถจักรยานยนต์กลับมาจากไปหาแฟนสาวที่ อ.เรณูนคร จ.นครพนม ถึงที่เกิดเหตุรถจักรยานยนต์ได้เสียหลักไม่ทราบสาเหตุ

เชื่อว่าส่วนหนึ่งมาจากใช้ความเร็วทำให้รถเสียหลัก เนื่องจากถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ ทำให้รถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งชนต้นไม้อย่างแรง เป็นเหตุหนุ่มคนขับเสียชีวิตคาที่ทันที

โดยทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งเตือนประชาชน ผู้ใช้รถใช้ถนนให้ระมัดระวัง เนื่องจากถนนดังกล่าว เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง จนได้ชื่อว่าถนนมรณะ เนื่องจากเป็นเส้นทางหลัก การจราจรคับคั่ง และมีช่องทางการจราจรแคบ

ซึ่งชาวบ้านเคยเรียกร้องไปยังแขวงทางหลวงมานานหลายปี แต่มีปัญหาเรื่องขาดแคลนงบประมาณ สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บและเสียชีวิตบ่อยครั้ง



ที่มา....https://www.sanook.com/news/7638538/