หนูน้อยวัยขวบเศษเล่นลูกบอลไฟฟ้า แต่ด้วยความซุกซนจับยัดเข้าปากอมจนติดคอเสียชีวิตคาเตียงคนไข้ในโรงพยาบาล
(18 ก.พ.) เหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ได้รับการเปิดเผยจาก นายสุวรรณ อายุ 33 ปี ชาวอำเภอบ้านฉาง จังหวัดระยอง ซึ่งเป็นพ่อของ น้องออร่า วัย 1 ขวบ 3 เดือน เด็กหญิงเคราะห์ร้ายที่ต้องจบชีวิตตัวเองลงเพราะความไร้เดียงสา หลังจากเล่นลูกบอลไฟฟ้าที่มีขนาดเท่ากับลูกปิงปอง และจับยัดเข้าปากอม แต่พลาดลูกบอลไปติดลำคอจนเสียชีวิต
ทั้งนี้ นายสุวรรณ เล่าว่า เหตุเศร้าสลดที่เกิดกับครอบครัวของตนนั้น ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา โดยในช่วงที่เกิดเหตุนั้นน้องออร่า ลูกสาวได้นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลบ้านฉาง เนื่องจากมีอาการป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่ และมีคุณยายวัย 60 ปี เป็นคนไปเฝ้าไข้ดูแลหลานสาว แต่ในช่วงที่เกิดเหตุนั้น คุณยาย ได้เกิดเผลอหลับจากความอ่อนเพลียที่ไม่ได้หลับนอนเต็มอิ่ม จากการที่ไปดูแลคอยเฝ้าไข้หลานสาวที่โรงพยาบาล มานานร่วม 2 สัปดาห์ ช่วงจังหวะที่คุณยายเผลอหลับอยู่นั้น คาดว่าหลานสาวจะตื่นลุกขึ้นมา จึงไปคว้าเอาลูกบอลไฟฟ้าที่หลานสาวผู้พี่ได้ถือมาฝาก ตอนที่มาเยี่ยมไข้และวางไว้ใส่ตะกร้าข้างหัวเตียงมาเล่น แต่ด้วยความไร้เดียงสาและความซุกซน จึงได้จับเอาลูกบอลยัดเข้าปากตัวเองอมเล่น ก่อนที่ลูกบอลจะไหลลื่นลงคอติดลำคอ โดยไม่มีใครเห็น เนื่องจากในห้องนั้นมีเตียงคนไข้ของลูกสาวอยู่เตียงเดียว
จนมารู้อีกทีเมื่อพยาบาลมาตรวจไข้ เมื่อจับดูตัวเด็กปรากฏว่าเด็กได้นอนแน่นิ่งแล้ว เมื่อจับอ้าปากออกเพื่อจะใส่สายยางดูดเสมหะจากคอเห็นลูกบอลติดอยู่ในลำคอ จึงได้ใช้คีมแพทย์คีบจับออกมา และช่วยปั๊มหัวใจช่วยชีวิต พร้อมทั้งได้รีบนำตัวส่งต่อไปยังโรงพยาบาลระยอง แต่คาดว่าเด็กน่าจะหมดลมหายใจไปนานกว่าที่แพทย์จะช่วยยื้อชีวิตคืนมาได้แล้ว จึงเสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา สร้างความเศร้าเสียใจให้กับครอบครัวเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะคุณยายที่ไปนอนเฝ้าดูแลหลานสาวตัวเอง ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยน้องออร่า เป็นเด็กที่น่ารักน่าชัง และเป็นลูกคนแรกคนเดียวอีกด้วย
นายสุวรรณ ยังกล่าว่า ขอให้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกสาวและครอบครัวของตนเป็นอุทาหรณ์สอนใจให้พ่อแม่หรือครอบครัวอื่น ในซื้อหรือหาของเล่นให้ลูกเล่นควรคำนึงถึงเรื่องความปลอดภัยด้วย เพราะไม่อยากจะให้เกิดเหตุการณ์สลดและเศร้าเสียใจเหมือนเช่นกับตนและครอบครัว
ที่มา....
https://www.sanook.com/news/7684794/
