ผู้เขียน หัวข้อ: หนุ่มขับเก๋งไปส่งญาติ จู่ๆ รถเสียหลักเสยท้าย 10 ล้อ หลานเสียชีวิต 2 ศพ  (อ่าน 181 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์




หนุ่มขับรถเก๋งไปส่งญาติๆ ขากลับจู่ๆ รถเกิดเสียหลัก เสียท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ หลานเสียชีวิต 2 ศพ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (17 เม.ย.) เมื่อเวลา 00.15 น. พ.ต.ต.ภาวิต  ปรีนคร สว(สอบสวน) สภ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเก๋งชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณบ้านหัวสะแก ถนนบางลี่-หนองวัลย์เปรียง หมู่ 5 ต.เนินพระปรางค์ อ.สองพี่น้อง ฝั่งขาเข้าตลาดบางลี่ อ.สองพี่น้อง

ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งโตโยต้า สีเทา สุพรรณบุรี สภาพหน้าหน้าพังยับมีผู้ได้รับบาดเจ็บติดอัดกับคอนโซลหน้ารถ เจ้าหน้าที่จึงใช้เครื่องตัดถ่างนำคนเจ็บออกมาได้นำตัวส่งโรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชองค์ที่ 17 จำนวน 4 ราย ได้รับบาดเจ็บสาหัส

นอกจากนี้ มีเด็กชายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ 1 ราย ทราบชื่อ น้องโฟร์เต้น อายุ 5 ปี ใกล้กันมีรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว จอดอยู่ข้างทางสภาพด้านท้ายมีรอยถูกเฉียวชน และยางล้อหลังข้างขวาแตก แต่ไม่พบตัวคนขับขี่ ต่อมามีผู้เสียชีวิตเพิ่มที่โรงพยาบาลอีก 1 ราย ทราบชื่อ ด.ญ.ปิยะนุช อายุ 1 ปี ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้ง 2 รายมากับรถยนต์เก๋ง

จากการสอบสวน นายนิติกร อายุ 22 ปี คนขับรถเก๋ง ให้การว่าตนพร้อม น.ส.รินทร์ดา อายุ 21 ปี น.ส.วรสุดา อายุ 15 ปี และหลานอีก 2 คน ไปส่งญาติที่จังหวัดกาญจนบุรี ขากลับถึงที่เกิดเหตุ จู่ๆ รถเกิดเสียหลักไปชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ ที่จอดอยู่ข้างทาง จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน สำหรับ ด.ญ.ปิยะนุช อายุ 1 ปี หนูน้อยที่เสียชีวิตเป็นบุตรชายของ น.ส.รินทร์ดา อายุ 21 ปี ส่วน น้องโฟร์เต้น อายุ 5 ปี ที่เสียชีวิตอีกรายเป็นหลานชาย

ด้าน พ.ต.ต.ภาวิต ปรีนคร สว(สอบสวน) เผยว่า จากการสอบสวนทราบว่ารถบรรทุก 10 ล้อ จอดข้างทางหน้าอู่ซ่อมรถเพื่อรอซ่อม โดยจอดอยู่ชิดขอบทางด้านซ้าย ไม่ได้กีดขวางการจราจร จากการสอบถามนายนิติกร คนขับรถยนต์เก๋งทราบว่าหลังจากการเที่ยวเล่นสงกรานต์และสรงน้ำพระแล้ว ได้ขับรถไปส่งเพื่อนที่จังหวัดกาญจนบุรี

ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่สันนิฐานว่าอาจเกิดจากการอ่อนเพลีย ทำให้เกิดอาการหลับในแล้วเสียหลักไปเฉี่ยวชนกับท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ ที่จอดอยู่หน้าอู่ซ่อมรถทำให้คนในรถบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริงอย่างละเอียดอีกครั้ง



ที่มา.....https://www.sanook.com/news/7746038/