ผู้เขียน หัวข้อ: หนุ่มเมาขี่รถล้มคว่ำ-กลับบ้านไม่ถูก หลงทิศมา 20 กม. ตื่นมาไม่รู้อยู่ที่ไหน  (อ่าน 127 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์




หนุ่มเปิดศึกกับแก๊งเพื่อน โดนชกหน้าระบม รีบขี่รถหนีกลับบ้าน แต่เมาล้มคว่ำเลือดอาบ ก่อนทิศทางไปไกล 20 กิโลเมตร ตื่นมาเป็นงง ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน พร้อมประสงค์ไม่แจ้งความใดๆ

(15 ก.ย.) เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.ท.ศิโรจน์ แนบเนียน สารวัตรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีพบว่ามีชายถูกทำร้ายร่างกายมาขอความช่วยเหลือ บริเวณท้ายซอยเอราวัณ 8 ม.12 ต.คลองสอง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้งจึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สายตรวจตู้คลองสอง หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองท่าโขลง

ในที่เกิดเหตุเป็นเพิงพักปลายนา พบผู้ได้รับบาดเจ็บนั่งอยู่บนแคร่ไม้ สภาพเลือดท่วมใบหน้าและเปรอะเสื้อผ้า ทราบชื่อคือ นายกฤตภัค อายุ 26 ปี ยังอยู่ในสภาพมึนงง และมีบาดแผลที่ใบหน้าคิ้วแตก ข้างกันยังพบรถจักรยานยนต์ยามาฮา มีโอ สีน้ำเงิน-ขาว ที่มีรอยเลือดติดอยู่ตามรถ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพเทศบาลเมืองท่าโขลงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนจะนำส่ง รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ

นายกฤตภัค ให้การว่า เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (14 ก.ย.) ตนไปดื่มกินกับเพื่อน 4 คน ที่ร้านแห่งหนึ่งย่านคลองสี่ จากนั้นก็มึนเมามีเรื่องทะเลาะวิวาหชกต่อยกัน จำได้ว่าตนชกเพื่อนอีกคนที่พูดจาไม่เข้าหูก่อน ก่อนที่อีก 3 คนจะผสมโรง อีกคนเข้ามาล็อกตัว อีกคนทำร้ายตนคิ้วแตก ส่วนอีกคนพยายามช่วยห้าม

หลังจากที่แยกย้ายกันออกมาได้ ตนก็ขี่จักรยานยนต์จะกลับบ้าน ตนจำทางกลับบ้านที่คลองสามได้ ตั้งสติว่าต้องเลี้ยวซ้าย กระทั่งขี่รถออกมาได้ไม่ไกล รถเกิดล้มคว่ำเพราะความเมา ทำให้มีบาดแผลเพิ่มเติม จากนั้นก็ขี่รถมาเรื่อยๆ กระทั่งมาโผล่บริเวณท้ายซอยเอราวัณ 8 ตนก็ไม่ทราบว่าขี่รถมาอยู่จุดนี้ได้อย่างไร เพราะค่อนข้างไกลจากบ้านกว่า 20 กิโลเมตร

นายวันทา อายุ 55 ปี ชาวบ้านที่พบเห็นชายคนดังกล่าว เปิดเผยว่า ตนตื่นเช้าขึ้นมากำลังนำไก่ออกมากราดแดด พบเห็นชายคนดังกล่าวสภาพเลือดท่วมตัว มาที่หน้าบ้านและขอน้ำกิน เพราะขี่รถล้มมา ตนก็หาน้ำให้ดื่ม แต่ชายคนดังกล่าวบอกว่าเจ็บ แผลตึงไปหมด กินอะไรไม่ค่อยได้ ตนจึงประสานตำรวจและประสานกู้ภัย เพราะไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากที่ไหน

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจได้พูดคุยให้ผู้ได้รับบาดเจ็บทราบว่า หากรักษาอาการได้รับบาดเจ็บแล้ว ให้ไปเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม และแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ก่อเหตุ แต่ผู้ได้รับบาดเจ็บยืนยันไม่ประสงค์จะแจ้งความ จะขอไปจัดการเคลียร์กันเอง เพราะเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ไม่อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องลำบากมาสืบคดีไร้สาระเช่นนี้



ที่มา....https://www.sanook.com/news/7896614/