จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "Tul Pewthongngam" ได้โพสต์รูปภาพนกกระจอกที่ถูกจับในถุงร้อนมัดไว้ แล้วเจาะรู เพื่อรอจำหน่ายให้กับลูกค้าที่ต้องการซื้อไปปล่อยทำบุญ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กคนดังกล่าวระบุว่า
“นกกระจอกในถุงร้อนเจาะรู อย่าซื้อบุญด้วยบาป ระหว่างเดินตลาดเช้า กาฬสินธุ์ หันไปเห็นนกกระจอก ดิ้นพล่านในถุงร้อนใสบนแผง พร้อมกับระบุข้อความสนทนากับคุณยายที่นำนกกระจอกใส่ในถุงมาขาย พร้อมลงท้ายแฮชแท็ก #ตลาดเช้ากาฬสินธุ์ #อย่าซื้อบุญด้วยบาป” ทำให้เป็นที่ถกเถียงกันมาอย่างมาก สำหรับการทำบุญปล่อยนกปล่อยปลาว่า การกระทำแบบนี้ได้ผลบุญจริงหรือไม่ จึงเกิดเป็นกระแสดรามาอย่างหนักทำให้ประชาชนเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกตรวจสอบตลาดดังกล่าวว่าเป็นการกระทำที่ถูกต้องหรือไม่
ล่าสุดวันนี้( 4 ตุลาคม 2562) เมื่อเวลา 08.30 น. นายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ พร้อมเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าลำปาว กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแผงตลาดโดยพบ นางอำนวย แม่ค้าขายนกกระจอกที่เป็นข่าว
โดยวันนี้ไม่พบนกกระจอกมาวางขาย แต่พบแมลง หอย และปลาไหล นำมาวางขาย โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำความเข้าใจในการนำนกกระจอกมาขายว่าหากนำนกมาใส่ในถุงที่แออัดก็จะเสียงทำให้นกนั้นตายได้ ถือเป็นการทรมานสัตว์ พร้อมยังห้ามนำนกมาขายอีกถึงแม้จะไม่เข้าข่ายทำผิดกฎหมายก็ตาม ซึ่งแม่ค้าก็ยืนยันว่าจะไม่นำนกมาขายอีก
ด้านนางอำนวย แม่ค้าขายนกกระจอก เปิดเผยว่า ปกติตนจะขายแมลง หอย ปลาไหล ส่วนนกกระจอกที่เห็นก็จะมีคนจับมาขายให้ตน โดยคนจับนกจะจับนกใส่กรงมาถามตนว่าจะซื้อนกไปขายหรือไม่ ซึ่งตนก็ซื้อมาขายเอากำไร จากนั้นคนจับนกก็จะจับนกใส่ในถุงใสตัวละ 1 ถุง แล้วมัดรวมกันเป็นพวงละ 4 ตัว ในราคา 90 บาท และได้เจาะรูเพื่อให้มีอากาศถ่ายเท จากนั้นก็จะมีลูกค้ามาซื้อไปปล่อยในราคาพวงละ 100 บาท ซึ่งการขายนกกระจอกตนก็ไม่ได้ขายเป็นประจำ หากมีคนจับมาขายตนก็จะรับซื้อขายต่อเท่านั้น ไม่คิดว่าจะเป็นการทรมานสัตว์เพราะเห็นว่ามีการเจาะรูให้นกอยู่ แต่เพื่อความสบายใจทุกฝ่ายตนก็จะไม่นำนกกระจอกมาขายอีกแล้ว และอยากขอโทษหากทุกคนมองว่าเป็นการทรมานสัตว์
ด้านนายนิยม กิตติวงศ์ตระกูล ผู้อำนวยการส่วนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า สำหรับวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่เข้าชี้แจงกรณีที่เป็นข่าวให้กับแม่ค้าได้รับทราบและทำความเข้าใจในการนำสัตว์มาวางขาย พร้อมกับชี้แจงพ่อค้าแม่ค้าทุกแผงว่ามีสัตว์ชนิดไหนบ้างหากนำมาวางขายจะมีความผิด โดยนกกระจอกนั้นไม่ใช้สัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สัตว์ป่าคุ้มครอง จึงทำให้มีการจับนกมาประกอบอาหารได้ โดยไม่ผิดกฎหมาย
ส่วนการที่มีการจับนกกระจอกมาใส่ถุงแล้ววางขายอย่างที่ปรากฏในภาพตามสื่อต่างๆ ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เนื่องจากว่าถือเป็นการทรมานสัตว์ หากจับนกมาอยู่ในที่ที่แออัดเป็นเวลานานๆ ก็อาจจะทำให้นกตายได้ แทนที่จะได้บุญแต่กลับเป็นการสร้างบาป ทางเจ้าหน้าที่จึงไม่ให้แม่ค้านำนกมาวางขายในลักษณะนี้อีก ในครั้งนี้ถือเป็นการตักเตือนและให้คำแนะนำ หากพบเห็นมีการกระทำอีกสามารถเข้าแจ้งเจ้าหน้าที่ได้เพื่อจะได้เข้าตรวจสอบอีกครั้ง
ที่มา....
https://www.sanook.com/news/7915330/
