ผู้เขียน หัวข้อ: เพื่อนเอะใจรถจอดนิ่ง ส่องบ้านเจอศพคนขับแท็กซี่ผูกคอ ลาครั้งสุดท้าย "ผมเหนื่อยหาเ  (อ่าน 489 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์



เมื่อเวลา 19.30 นวันที่ 9 พฤศจิกายน 2562 พ.ต.ท.เกรียงไกร  แสงยศ หัวหน้าพนักงานสอบสวน  สภ.  ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ได้รับแจ้งว่ามีผู้ผูกคอเสียชีวิต ที่เกิดเหตุห้องเช่าแห่งหนึ่ง หมู่ 3 ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี  จังหวัดปทุมธานี หลังรับแจ้งได้เดินทางไปยังที่เกิดเหตุ  เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู

ที่เกิดเหตุที่ห้องนอนชั้นล่างบริเวณทางออกหลังห้องติดกับห้องน้ำ พบศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในห้อง สวมเสื้อยืดสีเทา กางเกงขายาวใช้เชือกร่มสีน้ำเงินผูกคอติดลูกกรงเหล็กหน้าต่างโดยมีเก้าอี้เป็นที่รองรับ จากการตรวจสอบภายในห้องนอนไม่พบการรื้อค้นแต่อย่างใด พบเพียงเอกสารยา ของผู้เสียชีวิตทราบชื่อ นายพรชัย อายุ  60 ปี อาชีพขับแท็กซี่  นอกจากนี้ยังพบจดหมายลาตายของผู้เสียชีวิตโดยมีข้อความว่า 

"ลาก่อนทุกๆ คน ผมเหนื่อยมามากแล้วพร้อมกับสุขภาพไม่ค่อยดีเลยสายตาก็ไม่ค่อยดีมองไม่ชัดเจน ตุ้ย  สมานช่วยจัดการของในห้องให้ผมด้วยผมขอโทษที่ไม่ได้บอกลานะครับขอบคุณมา"

"คุณหนุ่ยคุณหนึ่ง  ผมต้องขอโทษด้วยเพราะผมเหนื่อยกับสายตาที่มองอะไรไม่ชัดเจน กลางคืนก็ขับรถไม่ได้ รายได้ที่หาลำบากมาก ที่ผมค้างไว้ผมขอนะครับหมดปัญญาที่จะหาคืนให้แล้ว ผมขอโทษด้วย"

"ตุ้ย บอกสมานมาเอารถกลับอู่ด้วยผมขอไปสบายผมเหนื่อยมากเรื่องหาเงินและสุขภาพกับสายตายิ่งมัว มองอะไรไม่ชัดเจนกลางคืนก็ขับรถไม่ได้"

จากการสอบถาม นายธนาชัย อายุ 67 ปี อาชีพช่างตัดผมที่อยู่ในตึกเดียวกันเปิดเผยว่า เห็นรถผู้ตายเขาจอดรถภายในบ้าน 2 วันก็เลยสงสัย เพราะแปลกจากทุกวันที่ต้องขับเข้าออก จึงเดินเข้าไปเรียก พอดันประตูเข้าไปเห็นพอดี เห็นผู้ตายผูกคอตนเอง จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ ผู้ตายบอกว่าบ่นให้ฟังว่าสุขภาพไม่ค่อยดี ตามองไม่ค่อยเห็น ขับรถเข้าอุโมงค์ก็ลำบากไม่ค่อยเห็น

พ.ต.ท.เกรียงไกร  แสงยศ หัวหน้าพนักงานสอบสวน  สภ. ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์เปิดเผยว่าได้รุดตรวจสอบที่เกิดเหตุและบันทึกภาพเก็บไว้เป็นหลักฐาน นอกจากนี้ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูนำศพส่งสถาบันนิติวิทยาศาสตร์โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ศูนย์รังสิต เพื่อตรวจสอบการเสียชีวิตอีกครั้งและจะได้ติดตามญาติเพื่อนำศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป


ที่มา   https://www.sanook.com/news/7948118/