‘ไอ้บิ๊ก’ ร้านลาบไม่สำนึกเกรี้ยวกราด มอบตัวคดีรุมตื้บลุง หิ้วฝากขังศาล แจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น ค้านการประกัน งานเข้าอีกตร.ขยายผลร้านอาหารอีสานเปิดถูกกฎหมายหรือไม่
จากกรณีที่โลกออนไลน์มีการแชร์คลิป เหตุการณ์ทะเลาะวิวาท โดยพบว่า กลุ่มชายฉกรรจ์รุมทำร้ายชายวัยกลางคน เหตุเกิดในซอย ตม.สวนพริกไทย โดยชายวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งได้จับคนขับรถเก๋งล็อกเอาไว้ ส่วนชายสวมเสื้อสีดำอีกคนได้รัวหมัดใส่ไม่ยั้ง ก่อนจะเตะซ้ำจนคนขับรถเก๋งล้มลงคล้ายหมดสติ โดยมีชาวบ้านพยยามเข้ามาห้ามปราม จากนั้นกลุ่มชายฉกรรจ์ได้ขับรถกระบะ ดีแม็กซ์ สีดำ ทะเบียน 1514 ปทุมธานี หลบหนีไป อย่างไรก็ตาม ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดในการก่อเหตุดังกล่าว โดยพบว่าหญิงสาวที่ถ่ายคลิปไว้ พยายามโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อขอความช่วยเหลือตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านข่าว แชร์ว่อน ชายฉกรรจ์ล็อกแขนคนแก่ กระหน่ำต่อยร่วง เตะซ้ำกลางถนน ชาวเน็ตล่า!
อ่านข่าว เล่านาทีแก๊งเสี่ยร้านลาบ ล็อกแขนกำกุญแจต่อยไม่ยั้ง ปมแค้นโกงค่าแรงโดนแจ้งจับ!
อ่านข่าว รู้ตัวแล้วเป็นใคร! เร่งตามตัวเสี่ยเจ้าของร้านดัง เผยปมดักกระทืบคนแก่
อ่านข่าว เสี่ยหนุ่ม-เมียสาวปิดร้านหนี! ตร.บุกร้านอีสานคลาสสิค ตามจับรุมกระทืบคนแก่ทวงค่าแรง
รุมตื้บลุง / ความคืบหน้า เมื่อเวลา 11.00 น. เมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่สภ.สวนพริกไทย จ.ปทุมธานี พล.ต.ต.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ รอง ผบช.ภ. 1เดินทางมาสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้ง 4 ราย ที่ปรากฏภายในคลิป ได้แก่ 1.นายธันวา หรือ บิ๊ก ทรัพย์สินไพบูลย์ อายุ 30 ปี คนต่อย 2.นายไพโรจน์ หรือ หมุด สีทอง อายุ 34 ปี คนขับบิ๊กไบค์ และ 3.นายรามัญ หรือ ดำ คงแป้น อายุ 27 ปี คนล็อคแขน
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน
ภายหลังจาก เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน ร่วมกันออกสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุตามสถานที่ต่างๆตลอดมา ต่อมาเมื่อวันที่ 22 พ.ย. ผู้ก่อเหตุทั้งหมดทนต่อการถูกติดตามกดดันของเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ไหว จึงติดต่อขอเข้ามอบตัวเพื่อต่อสู้คดีตามกฎหมายจำนวน 3 คน เท่านั้น ส่วน น.ส.นันท์นภัส ทิพย์กังวานวงศ์ ภรรยาของนายธันวา หรือบิ๊ก ทิพย์กังวานวงศ์ ไปร่วมงานแต่งงานของญาติ ที่จ.หนองบัวลำภู
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวว่า โดยช่วงเกิดเหตุนายสมบัติผู้เสียหาย แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนว่า ในวันที่ 21 พ.ย. นัดเจรจากับ นายธันวา หรือบิ๊ก เรื่องค้างค่าจ้างแรงงานของญาติ ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดปทุมธานี เมื่อตกลงและจ่ายเงินค่าจ้างกันเรียบร้อยแล้ว ก็ขับรถออกมาพร้อมภรรยาและลูก
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า ขณะขับรถถึงบริเวณที่เกิดเหตุดังกล่าว นายธันวาขับขี่รถยนต์มากับน.ส.นันท์นภัส และนายรามัญหรือ ส่วนนายไพโรจน์ ขับขี่รถจักรยานยนต์ นำหน้ารถยนต์ผู้เสียหายเมื่อถึงที่เกิดเหตุ นายไพโรจน์ หยุดรถจักรยานยนต์ขวางทางเดินรถของผู้เสียหาย และนายธันวาก็หยุดรถปิดท้ายรถผู้เสียหาย จากนั้นนายธันวาลงจากรถมากระชากประตูรถผู้เสียดึงตัวผู้เสียหายลงจากรถ ส่วนนายรามัญเดินเข้ามาจับล็อคแขนผู้เสียหายไว้ และนายธันวาใช้หมัดชกและใช้เท้าแตะทำร้ายผู้เสียหาย ซึ่งจากการดูคลิปมีการต่อย 8 ครั้ง และเตะอีก 9 ครั้ง จนผู้เสียหายล้มลงแล้ว ก็ยังเตะซ้ำอยู่ ซึ่งพฤติกรรมแบบนี้สังคมไทยเรารับไม่ได้ ภายหลังจากก่อเหตุผู้ก่อเหตุขับรถหลบหนีไป
“จากการสอบปากคำผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย รับสารภาพว่าเป็นคนก่อเหตุจริง แต่ยังมีบางรายที่ให้การภาคเสธ โดยจากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาทั้ง 3 รายนั้น นายรามัญหนึ่งในผู้ต้องหา เพิ่งพ้นโทษคดีทำร้ายร่างกาย จากเรือนจำมาได้ไม่นาน ก็มาก่อเหตุซ้ำ สำหรับสาเหตุที่ก่อเหตุนั้น นายธันวาไม่พอใจและโกรธนายสมบัติผู้เสียหาย ที่นำเรื่องค้างค่าจ่ายค่าแรงของญาตินายสมบัติพนักงานมาแจ้งกับ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองปทุมธานี จึงได้ก่อเหตุดังกล่างขึ้น” พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าว
พล.ต.ต.ธนายุตม์ กล่าวต่อว่า สำหรับร้านอาหารอีสานของนายธันวา โดยหลังจากนี้ตำรวจจะขยายผลร้านอาหารอีสานว่าเปิดร้านถูกต้องหรือไม่ รวมถึงแรงงานลูกจ้างในร้าน ว่าจ้างมาอยู่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ด้วย ส่วนการดำเนินคดี ตำรวจแจ้งข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น พร้อมคัดค้านการประกันตัว และนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดปทุมธานี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โดยระหว่างที่ตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย ผู้สื่อข่าวพยายามสอบภามนายธันวา และว่าจะขอโทษผู้ต้องหาหรือไม่ ระหว่างขึ้นรถ โดยนายธันวามีท่าทางเกรี้ยวกราด พยายามเบียดสื่อมวลชน และ ไม่มีท่าทีสำนึกผิดกับสิ่งที่ก่อเหตุ
ทั้งนี้ มีรายงานว่า กลุ่มของนายธันวานั้นเป็นลูกน้องของนักการเมืองรายหนึ่ง ซึ่งคนในพื้นที่สวนพริกไทยและปทุมธานี จะรู้จักเสี่ยหมูหรือนายธันวาเป็นอย่างดี
ต่อมาเวลา 13.00 น. ที่ศาลจังหวัดปทุมวัน พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจสวนพริกไทย คุมตัว นายธันวา หรือบิ๊ก ทรัพย์สินไพบูลย์ นายไพโรจน์ หรือหมุด สีทอง นายรามัญ หรือดำ คงแป้น ผู้ต้องหาที่ร่วมกันก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายสมบัติ นิยมมาก อายุ 52 ปี บริเวณซอยบริษัทกรุงเทพน้ำทิพย์ หมู่ 7ต.สวนพริกไทย อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา มาขออำนาจศาลจังหวัดปทุมธานี เพื่อขอฝากขังครั้งแรก มีกำหนด 12 วัน
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาทั้ง 3 ยื่นคำร้องขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลวิเคราะห์แล้วมีคำสั่งอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวไปในระหว่างการสอบสวน โดยตีราคาประกันคนละ 32,000 บาท
ที่มา breaking-news/news_3081408
