ผู้เขียน หัวข้อ: มี "ประจำเดือน" 2 ครั้ง ต่อเดือน ผิดปกติหรือเปล่า?  (อ่าน 702 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์



หากคุณผู้หญิงมีประจำเดือนมากเกินกว่า1ครั้งอาจเป็นเพราะเกิดจากความตึงเครียดสะสมหรือการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนซึ่งนำมาก่อให้เกิดโรคร้ายได้ในอนาคต
ปกติรอบเดือนของคุณผู้หญิงมักมาแค่เดือนละ 1 ครั้ง แต่จู่ๆ ก็ดันมีเลือดคล้าย ประจำเดือน ไหลออกมาอีกเป็นครั้งที่ 2 จนทำให้เราสับสนในการนับวันตกไข่ หรือวันที่รอบเดือนจะมาในครั้งถัดไป สาวๆ บางคนแอบวิตกกังวลเล็กน้อย เพราะกลัวโรคร้ายแรงจะถามหา วันนี้ Hello คุณหมอ จึงพาคุณผู้หญิงทั้งหลายมาคลายข้อสงสัยกัน

ประจำเดือน มาถี่ๆ เกิดจากสาเหตุอะไร?

วงจรของรอบเดือนที่เปลี่ยนแปลงไป เป็นเรื่องปกติที่มักพบในเด็กสาววัยรุ่นส่วนใหญ่ สำหรับบางคนประจำเดือนอาจมาช้า หรือเร็วต่างจากรอบเดือนเดิม แต่บางคนประจำเดือนก็ดันมามากถึง 2 ครั้งต่อเดือนเลยทีเดียว ซึ่งมีสาเหตุหลักๆ ดังต่อไปนี้

         - ฮอร์โมนของวัยแรกรุ่นที่ยังไม่สมดุลคงที่

         - มีความตึงเครียดปะปนในขณะถึงวันตกไข่

         - ภาวะไข่ไม่ตก (lack of ovulation)

         - ไทรอยด์เป็นพิษ (hyperthyroidism)

         - การใช้ยาที่เกี่ยวข้องกับการคุมกำเนิด

         - น้ำหนักที่เพิ่มขึ้น หรือลดลงอย่างรวดเร็ว

         - ภาวะร่างกายที่กำลังเข้าสู่ช่วงวัยหมดประจำเดือน

สีของประจำเดือนในรอบที่สองนั้นอาจแตกต่างจากรอบแรก มักปรากฏให้เห็นลักษณะสีแดงเข้ม น้ำตาล หรือชมพูอ่อนๆ และมีจำนวนปริมาณของเลือดลดน้อยลงกว่าเดิม เพื่อป้องกันการเปรอะเปื้อนควรพกผ้าอนามัยติดตัวไว้ เมื่อเริ่มมีอาการปวดเกร็งบริเวณท้องน้อย

อาการแทรกซ้อนเมื่อ ประจำเดือน คุณกำลังมารอบที่ 2 ปวด เมื่อยล้าทั้งลำตัว หรือบริเวณหลัง อาการปวดหัว อ่อนเพลียง่าย ไม่มีเรี่ยวแรง เวียนหัว คลื่นไส้ อัตราการเต้นของหัวใจถี่ จังหวะการหายใจแรง ประจำเดือน มาสองรอบเป็นสัญญาณเตือนของโรคอะไรได้บ้าง


ระวังสุขภาพของคุณให้ดีหากประจำเดือนมาบ่อยในระยะเวลาเพียงเดือนเดียว อาจทำให้คุณเป็นโรคร้ายแรงได้ เช่น

         - โรคกระดูกเชิงกรานอักเสบ

เป็นการติดเชื้อแบคทีเรียที่สะสมอยู่ในระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ที่อาจเข้าสู่ช่องคลอดของคุณแพร่กระจายไปยังมดลูก และอวัยวะเพศที่ทำให้เกิดอาการแท้งบุตร รวมถึงมีอาการตกขาว เจ็บปวดในอุ้งเชิงกรานพร้อมทั้งมีกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ร่วมด้วย

         - เนื้องอกในมดลูก

เกิดจากการเจริญเติบโตผิดที่ และยึดติดกับผนังของมดลูก ซึ่งมีตั้งแต่ขนาดเล็กเท่าเมล็ดพืชจนถึงขนาดใหญ่เท่าลูกส้มโอ เนื้องอกนี้มีอาการข้างเคียงที่รุนแรงเช่น อาการปวดท้อง เลือดออกในปริมาณมาก ควรเข้ารับการปรึกษาผ่าตัดเอาออกโดยแพทย์ให้เร็วที่สุดหากเป็นได้

         - โรคมะเร็งปากมดลูก

เป็นมะเร็งชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV) ในเซลล์ส่วนล่างของมดลูกที่เชื่อมต่อกับช่องคลอดที่ก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก สามารถสังเกตอาการแรกเริ่มได้ง่ายๆ คือ ประจำเดือนเริ่มไหลน้อย ส่งกลิ่นไม่พึงประสงค์ รวมถึงมีอาการปวดกระดูกเชิงกรานระหว่างมีเพศสัมพันธ์


ไม่อยากเลือดไหลสองรอบ ควรรีบรักษาด้วยวิธีนี้

การรักษาขึ้นอยู่กับสาเหตุ และพื้นฐานปริมาณ รวมถึงจำนวนครั้ง ของเลือดที่ไหล หากการวินิจฉัยพบว่าเป็นเพียงแค่โลหิตจาง อาจเสริมด้วยการรับประทานธาตุเหล็กเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น

สำหรับผู้ป่วยที่มีภาวะต่อมไทรอยด์เป็นพิษ : แพทย์อาจจำหน่ายยาชนิดรับประทาน หรือวิธีการรักษาด้านอื่นๆ ตามแต่เหมาะสม

สำหรับผู้ป่วยที่เกี่ยวข้องกับโรคซีสต์ : อาจได้รับการผ่าตัดด้วยคลื่นเสียงความถี่สูง (MRI) โดยแพทย์เฉพาะทางที่ชำนาญแล้วเท่านั้น

การหยุดเจริญเติบโตของเนื้องอก : โดยใช้ฮอร์โมนกลุ่มโกนาโดโทรฟิน (Gonadotropin) เข้ารักษาโดยทำให้คุณเข้าสู่ภาวะหมดประจำเดือนชั่วคราว และยับยั้งการเจริญเติบโตทำให้เนื้องอกมีขนาดที่เริ่มเล็กลง ทางแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจใช้การรักษานี้ร่วมกับการผ่าตัด


ที่มา...https://www.sanook.com/health/20005/