ผู้เขียน หัวข้อ: “ไข้เลือดออก” VS “ไข้หวัด” VS “ชิคุนกุนยา” แตกต่างกันอย่างไร ?  (อ่าน 775 ครั้ง)

ออฟไลน์ webmaster

  • Administrator
  • medtech ปี เอก
  • *****
  • กระทู้: 3951
    • อีเมล์



โรคที่มีอาการไข้เป็นอาการแรก ๆ อาจสร้างความสับสนให้กับผู้ป่วยได้วากำลังป่วยเป็นโรคอะไรกันแน่ หากจริง ๆ แล้วเป็นไข้เลือดออก แต่คิดว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา อาจชะล่าใจจนปล่อยให้มีอาการหนักจนอาจรักษาไม่ทัน และเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตได้ ดังนั้นการเรียนรู้อาการที่แตกต่างของแต่ละโรคจะช่วยจำแนกระดับอาการของโรคได้คร่าว ๆ และช่วยให้หายได้เร็วขึ้น เสี่ยงอันตรายน้อยลง

อาการของโรคไข้หวัด

        - มีไข้ อาจจะไข้สูง หรือต่ำ
        - คัดจมูก
        - เจ็บคอ
        - ปวดศีรษะ
        - ปวดกล้ามเนื้อ
        - ไอ
        - อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย
        - อาการดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หลังรับประทานยาลดไข้ และยาลดอาการอื่นๆ

อาการของไข้เลือดออก

        - ไข้สูงลอย 2-7 วัน ไข้ขึ้นอย่างฉับพลัน และมักสูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส
        - ไม่มีอาการน้ำมูกไหล หรืออาการไอ
        - เบื่ออาหาร
        - อาจมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
        - ผื่นขึ้นที่ผิวหนังเป็นจุดเลือดเล็กๆ กระจายตามแขน ขา ลำตัว รักแร้
        - อาจมีเลือดกำเดาหรือเลือดออกตามไรฟัน
        - อาจถ่ายอุจจาระเป็นเลือด โดยอุจจาระเป็นสีดำ
        - มีอาการตับโต กดเจ็บ ในระยะ 3-4 วันหลังเริ่มมีอาการป่วยวันแรก

อาการของโรคชิคุนกุนยา (โรคไข้ปวดข้อยุงลาย)

        - มีไข้สูง บางรายสูงถึง 40 องศาเซลเซียส แต่ในบางรายก็อาจมีไข้ต่ำ
        - มีอาการปวดกล้ามเนื้อและปวดบริเวณข้อเป็นอย่างมาก ค่อยๆ ปวดเพิ่มไปทีละข้อ โดยเป็นข้อเล็ก ๆ ทั้งด้านซ้าย และด้านขวา
        - มีผื่นแดงขึ้นคล้ายกับโรคไข้เลือดออกที่บริเวณลำตัว แต่บางกรณีก็สามารถพบได้ที่แขน ขาด้วยเช่นกัน
        - มีอาการปวดหัว ปวดตา ตาแดง ตาไม่สู้แสงเล็กน้อย รวมไปถึงมีอาการอ่อนเพลีย

อย่างไรก็ตาม อาจมีรายละเอียดอาการอื่น ๆ ที่เราอาจไม่ทันได้สังเกต และอาจวินิจฉัยโรคด้วยตนเองผิดพลาดได้ เพราะฉะนั้นจำเอาไว้ง่าย ๆ ว่า หากมีไข้สูงติดต่อกันมากกว่า 3-4 วัน ควรพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกายโดยละเอีนดจะดีที่สุด


ที่มา...https://www.sanook.com/health/19557/