ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ในแต่ละปี มีผู้เสียชีวิตจากบุหรี่มากกว่า 7 ล้านคน และในจำนวนนี้ เป็นผู้ที่เสียชีวิตจาก “ควันบุหรี่มือสอง” (ไม่ได้สูบเอง) มากถึง 890,000 คน เลยทีเดียว
ดังนั้น ถ้าไม่อยากเป็น 1 ใน 7 ล้านคน ที่ต้องเสียชีวิตจากบุหรี่ในแต่ละปี นี่คือ 9 เหตุผลที่จะบอกว่าทำไมถึงควรเลิกสูบบุหรี่ก่อนจะสายเกินแก้
เป็นโรคมะเร็งกล่องเสียง
โรคมะเร็งกล่องเสียง มักเป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้ที่สูบบุหรี่ เพราะการเผาไหม้ของบุหรี่ทำให้เกิด “สารก่อมะเร็ง” นอกจากนี้ควันของบุหรี่ยังทำให้ “ขนกวัด” (cilia) ของเยื่อบุกล่องเสียง ซึ่งมีหน้าที่กำจัดสารคัดหลั่งและสิ่งแปลกปลอม ลดประสิทธิภาพในการทำงานลง จึงมีสารคัดหลั่งหรือสารระคายเคืองตกค้างอยู่ ส่งผลให้เยื่อบุของกล่องเสียงหนาตัวขึ้นและแปรสภาพเป็นเซลล์มะเร็ง
เสี่ยงต่อการฆ่าตัวตาย
ผลการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยวอชิงตันของสหรัฐอเมริกาพบว่า สารนิโคตินในบุหรี่อาจทำให้เกิดอาการทางจิตและนำไปสู่การฆ่าตัวตายได้ ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการเสียชีวิตที่ลดลงถึง 15 เปอร์เซ็นต์ ในสหรัฐฯ หลังมีการเพิ่มภาษีบุหรี่ และมีกฎหมายห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะ
เพิ่มความเสี่ยงเป็นโรคจิตเภท
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยคิงส์ คอลเลจ ของอังกฤษ ระบุว่าการสูบบุหรี่เพิ่มความเสี่ยงในการเป็นโรคจิตเภทได้ โดยพบว่ากว่า 57 เปอร์เซ็นต์ที่เข้ารับการรักษาอาการทางจิตเภทเป็นผู้ที่สูบบุหรี่ และเมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่สูบบุหรี่ พบว่าคนที่สูบบุหรี่มีโอกาสมีอาการผิดปกติทางจิตเร็วกว่าผู้ไม่สูบบุหรี่ 1 ปี
ทำให้ลูกเสี่ยงเป็นโรคหอบหืด
ผลการศึกษาของมหาวิทยาลัยเบอร์เก้นในนอร์เวย์พบว่า การที่ผู้ชายสูบบุหรี่มาตั้งแต่วัยรุ่น หรือสูบบุหรี่มาเป็นเวลานานก่อนจะมีครอบครัวนั้น เพิ่มความเสี่ยงให้ลูกๆ ของตัวเองเป็นโรคหอบหืดตั้งแต่เด็กมากถึง 3 เท่าเลยทีเดียว
ที่มา...https://www.sanook.com/health/26131/