นายสมชาย อนันตจารุตระกูล ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม นำเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องพร้อมอาสาปศุสัตว์ประจำหมู่บ้านลงพื้นที่ตรวจสอบ วางแนวทางป้องกัน และให้การช่วยเหลือเกษตรกร เมื่อวันจันทร์ (13 ก.ย.) หลังเกิดโรคระบาดในหมูของเกษตรกร ที่เลี้ยงตามบ้านเรือน ในพื้นที่ ผู้ใหญ่บ้านนาโพธิ์หมู่ที่ 5 ต.บ้านผึ้ง อ.เมืองนครพนม จ.นครพนม
จากการตรวจสอบเบื้องต้น พบหมูของนางไวดี อุประ อายุ 60 ปี ที่เลี้ยงไว้ กว่า 30 ตัว ซึ่งมีทั้งพ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ และหมูขุน น้ำหนักตัวละประมาณ 50-100 กิโลกรัม ล้มตายไม่ทราบสาเหตุ เกือบ 20 ตัว มูลค่าความเสียหายประเมินเบื้องต้นราว 200,000 บาท เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์พบว่ามีจากกการติดเชื้อไวรัสโรคเพิร์ส หรือพีอาร์อาร์เอส (PRRS) ซึ่งเป็นโรคระบาดในหมู
นอกจากนี้ ยังพบหมูของเกษตรกร ในพื้นที่ อยู่ระหว่างการติดเชื้อ และมีการล้มป่วยตายไปก่อนหน้านี้ รวมเกือบ 100 ตัว โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบ ฉีดวัคซีนป้องกัน นอกจากนี้ยังได้เร่งนำซากหมูที่ล้มตายไปฝังกลบ แจ้งเตือนชาวบ้านห้ามนำไปปรุงอาหารรับประทาน พร้อมประเมินทำการดูแลเยียวยา มูลค่าประมาณ 75% ของราคาขาย
ส่วนสาเหตุคาดว่ามาจากการติดเชื้อมาจากซากสัตว์ที่ชาวบ้านนำมารับประทาน พร้อมประกาศเป็นพื้นที่โรคระบาดห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์
นางไวดี อุประ ซึ่งเป็นเกษตรกรเลี้ยงหมู เปิดเผยว่า ตนเลี้ยงหมูไว้ขายประมาณ 30-40 ตัว ช่วง 4-5 วันที่ผ่านมา สังเกตอาการพบว่า หมูในคอกเริ่มมีอาการป่วย และไม่กินอาการ ก่อนทยอยล้มตายวันละ 4-5 ตัว ล่าสุดล้มตายไป เกือบ 20 ตัว มูลค่าความเสียหาย นับ 2 แสนบาท และยังพบว่า หมูของเพื่อนบ้านในหมู่บ้านมีอาการป่วยเช่นกัน และทยอยล้มตายลง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ปสุสัตว์มาตรวจสอบดูแลช่วยเหลือ
ก่อนนี้พบว่ามีเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงประสบปัญหาหมูเกิดโรคระบาดตาย รวมเกือบ 100 ราย สร้างความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ซ้ำเติมในช่วงโควิดระบาด คาดหวังลงทุนจะเลี้ยงหมูไว้จำหน่ายกับมาเกิดโรคระบาดตาย วอนเจ้าหน้าที่หาทางช่วยเหลือป้องกัน หวั่นระบาดตายยกคอก
นายสมชาย อนันตจารุตระกูล ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม เปิดเผยว่าสาเหตุที่หมูล้มตาย เบื้องต้นมาจากสาเหตุโรคเพิร์ส หรือพีอาร์อาร์เอส (PRRS) เพิ่งมีการแพร่ระบาดในพื้นที่ได้ไม่นาน ซึ่งคาดว่าการติดเชื้อโรคระบาดดังกล่าว น่าจะมาจากหลายช่องทาง เช่นจากบุคคลในตำบลไปสัมผัสมาจากพ่อค้าเร่รับซื้อหมู ที่เข้ามาซื้อหมูภายในหมู่บ้าน โดยมีการไปนำหมูมาจากต่างจังหวัด
ปศุสัตว์จังหวัดนครพนม กล่าวต่อไปว่า การดูแลเบื้องต้นเมื่อพบอาการ จะทำการฉีดวัคซีนป้องกัน ให้เกษตรกรแจ้งเจ้าหน้าที่ หรืออาสาปสุสัตว์ทันที สำหรับการเยียวยาสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดนครพนม จะประเมินราคาตามระเบียบการช่วยเหลือว่า กรณีที่หมูล้มตายนี้มาจากโรคอะไร หากเข้าข่ายโรคดังกล่าว ก็จ่ายช่วยเหลือชดเชยเกษตรกร 75% จากราคาประเมิน
อย่างไรก็ตาม ทางการแจ้งเตือนให้เกษตรกรห้ามนำไปแปรรูปรับประทาน หรือไปชำแหละขาย ต้องฝังกลบซากตัดวงจรการระบาด นอกจากนี้ทางปสุสัตว์จังหวัดนครพนมจะได้ประกาศเป็นพื้นที่เกิดโรคระบาดห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์ประเภทหมูหรือห้ามนำซากสัตว์เข้ามาในพื้นที่ ต้องได้รับการตรวจสอบอนุญาตจากเจ้าหน้าที่
ที่มา...
https://www.sanook.com/news/8442762/
