เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถชนคนและภายในที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ มีอาการขาผิดรูป เป็นหญิง 1 ราย ภายในซอย ประชาอุทิศ 58/2 จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง พบเหตุเกิดบริเวณด้านหลังของห้างโลตัส สาขาประชาอุทิศ ซอย ประชาอุทิศ 58/2 ถนน ประชาอุทิศ แขวง ทุ่งครุ เขต ทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร พบผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นหญิง 1 ราย เป็นพนักงานของห้างดังกล่าว ทราบชื่อต่อมาชื่อ นางสาวหทัยภัทร เพลงสันเทียะ อายุ 24 ปี นอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด อยู่บริเวณพื้นของลานจอดรถด้านหลังห้างดังกล่าว
จากการตรวจสอบแล้วพบว่าบริเวณขาข้างขวา ผิดรูปอย่างเห็นได้ชัดเจน และมีกระดูกหน้าแข้งโผล่แทงออกมาทะลุเนื้อด้านใน มีบาดแผลขนาดใหญ่แล้วเลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก อาสาสมัครจึงรีบรุดจัดชุดอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น มีสติถามตอบรู้เรื่องเป็นอย่างดี จึงรีบนำส่งต่อไปที่โรงพยาบาลบางมด อย่างเร่งด่วน ตามสิทธิ์การรักษาพยาบาลต่อไป
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณโดยรอบพบกับรถกระบะ ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นรีโว สีบรอนซ์เงิน พุ่งชนเข้าไปภายในบ้านที่เป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น ปลูกติดกัน 10 คูหา บ้านหลังดังกล่าวอยู่หลังที่ 9 ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับบริเวณลานจอดรถดังกล่าว ในสภาพส่วนหน้าของรถพังเสียหายยับเยิน และประตูบ้านหลังดังกล่าวพังยับติดกับหน้ารถ ไปจนถึงบริเวณกลางบ้านชั้นล่าง ข้าวของภายในบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงบันทึกภาพภายในที่เกิดเหตุทั้งหมดเพื่อประกอบสำนวนคดีทางกฎหมาย
จากการสอบถาม น.ส.นฤมล อายุ 55 ปี พักอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ บอกเล่าว่า ตนพักอยู่บ้านหลังนี้คนเดียว ส่วนเจ้าของบ้านเป็นน้องชายตน พักอีกที่หนึ่ง ปกติแล้วตนจะนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านทุกวัน จะขึ้นบ้านก็ประมาณ 4 ทุ่ม แต่วันนี้ ตนไม่รู้นึกอย่างไร ประมาณ 3 ทุ่มกว่าๆ ตนก็ขึ้นข้างบนแล้ว พอขึ้นไปได้ ไม่ถึง 15 นาที ก็ได้ยินเสียงดังสนั่น เหมือนของอะไรตก ตนก็ชะโงกหน้าไปดูที่ระเบียง เห็นชาวบ้านเดินมาดูหน้าบ้านตน ตนจึงรีบลงมาดูว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น พอลงมาถึงก็พบกับสภาพบ้านพังเละเพราะรถพุ่งเข้ามาชน
นายอุดมพงศ์ กลันทานนท์ อายุ 28 ปี เป็นผู้ขับขี่รถยนต์คันเกิดเหตุ บอกเล่าว่า ตนได้หัดขับขี่รถยนต์คันเกิดเหตุนี้ แล้วผู้บาดเจ็บที่ขาหักผิดรูป เป็นแฟนของตน ก่อนเกิดเหตุนั่งรออยู่ ตอนเกิดเหตุ รองเท้าตนได้เข้าไปขัดกับคันเร่ง ทำให้คันเร่งค้าง แล้วพุ่งไปชนกับแฟนตนที่นั่งอยู่ ตนเห็นดังนั้นจึงหักพวงมาลัยออกเลยพุ่งไปชนกับประตูบ้านที่เกิดเหตุ ตนตกใจมาก จึงรีบลงรถแล้ววิ่งไปดูแฟนของตน ซึ่งตอนนั้น เห็นเลือดออกแล้วขาบิดไปอีกฝั่งนึง ตนทำไรไม่ถูก ทั้งตกใจและเสียใจกับเหตุการณ์นี้มาก
เบื้องต้นจากการตรวจสอบอย่างละเอียดภายในที่เกิดเหตุแล้วและจากคำบอกเล่าของพยานที่อยู่ภายในที่เกิดเหตุ คาดว่าผู้ขับขี่รถคันดังกล่าวไม่ได้เป็นเจ้าของรถ แต่กำลังที่จะหัดขับรถ เป็นรถเพิ่งออกมาใหม่ เปลี่ยนจากป้ายแดง เป็นป้ายขาวได้ 2 วัน ในระหว่างการหัดขับรถนั้นแฟนของคนขับรถได้นั่งรออยู่ตรงบริเวณที่เกิดเหตุ แต่ผู้ขับขี่นั้นยังไม่มีความชำนาญในการขับขี่ ประกอบกับรองเท้าที่สวมใส่มีขนาดใหญ่ เพราะเป็นรองเท้าเซฟตี้หัวเหล็กอย่างดี จึงเกิดการเข้าไปขัดกับคันเร่ง จึงทำให้รถคันดังกล่าวเร่งเครื่องยนต์ขึ้นมาอย่างแรง และผู้ขับขี่ยังไม่ชำนาญในการขับขี่จึงตกใจแล้วควบคุมรถกระบะไม่อยู่ จึงเป็นเหตุดังกล่าวตามที่เห็น
ส่วนค่าเสียหายทั้งหมดต้องรอให้เจ้าหน้าที่บริษัทประกันภัยของรถกระบะคันดังกล่าวมาตรวจสอบ และประเมินความเสียหายอีกครั้ง และส่วนเรื่องของกระบวนการตามกฎหมายนั้นต้องรอให้ผู้ได้รับบาดเจ็บอาการดีขึ้น หรือพอจะให้การได้ก่อนถึงจะต้องมาตกลงกันที่โรงพัก ว่าผู้ได้รับบาดเจ็บต้องการที่จะแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่อย่างไร แล้วในส่วนของทางด้านผู้ขับขี่จะต้องนำตัวไปสอบถามอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อลงบันทึกประจำวันเอาไว้ก่อนเพื่อรอการดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ที่มา...
https://www.sanook.com/news/8443786/
