ผู้เขียน หัวข้อ: แห่เข้าคิวแต่เช้ามืด-กู้ซื้อบ้าน0%คึกคัก  (อ่าน 2000 ครั้ง)

ออฟไลน์ vt

  • medtech ปี เอก
  • ******
  • กระทู้: 530
    • อีเมล์


แน่นธอส. - ประชาชนจำนวนมากเดินทางมายื่นหลักฐานใช้สิทธิ์กู้เงินซื้อบ้านหลังแรกดอกเบี้ย 0 เปอร์เซ็นต์แน่น ธอส. โดยวันแรกมีผู้ยื่นกู้ทั่วประเทศแล้วกว่า 9 พันล้านบาท เมื่อวันที่ 9 พ.ค.

กู้ 0 เปอร์ เซ็นต์วันแรกเกือบ 6 พันราย วงเงินเกือบ 9 พันล้าน ธอส.จะรับได้ถึง 3.5 หมื่นล้าน ส่วนที่เกินจาก 2.5 หมื่นล้านจะทำบัญชีรอไว้ก่อน เพื่อแทนกลุ่มที่จะไม่ผ่านการอนุมัติ สำนักงานใหญ่มากสุด 709 ล้านบาท รองลงมาเชียงใหม่ หาดใหญ่ พัทยา และศรีนครินทร์ "กรณ์"ยันอนุมัติ 2.5 หมื่นล้านได้ใน 2 เดือน คาดทันรัฐบาลใหม่ และถ้าพรรคไหนเห็นว่าดี ก็ประกาศเป็นนโยบายได้เลย เพื่อความสบายใจของประชาชน ขณะที่ธอส.สาขาต่างๆ ทั่วประเทศคึกคักตั้งแต่เช้า ชาวบ้านดีใจที่มีโอกาสได้บ้านหลังแรก

เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เป็นวันแรกที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดให้ประชาชนยื่นขอกู้สินเชื่อบ้านหลังแรก ตามนโยบายรัฐบาล ระหว่างเวลา 08.30-15.30 น. ปรากฏว่าที่ ธอส.สาขาสำนักงานใหญ่ ถ.พระ ราม 9 มีผู้เข้ามายื่นเพื่อขอสินเชื่อตั้งแต่เช้ามืด โดยรายแรกเดินทางมาจาก จ.บุรีรัมย์ มาถึง ธอส. สำนักงานใหญ่ ตั้งแต่เวลา 04.00 น. โดยมารอคิวแทนลูกสาวที่จะยื่นคำขอกู้ซื้อคอนโด มิเนียม ย่านห้วยขวาง วงเงินขอกู้ 2.2 ล้านบาท อย่างไรก็ตามบรรยากาศโดยทั่วไปประชาชนไม่เนืองแน่นมากนัก อาจเพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังเตรียมเอกสารขอกู้สินเชื่อไม่ทัน และส่วนหนึ่งยื่นกู้ที่สำนักงาน ธอส.ในจังหวัดต่างๆ

ส่วนผู้ที่มายื่นกู้ในวันแรกนี้ระบุคล้ายกันว่า ทำเรื่องขอกู้หรือเตรียมเอกสารมาก่อนเปิด โครงการนี้ จึงมายื่นเอกสารได้ทันที และประชาชนที่มายื่นกู้ส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า การยกเว้นอัตราดอกเบี้ยใน 2 ปีแรก และฟรีค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง ช่วยลดภาระได้หลักแสนต่อปี ซึ่งถือว่าเป็นการช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยและต้องการมีบ้านหลังแรกเป็นของตัวเอง ดังนั้น จึงอยากให้รัฐบาลขยายวงเงินเพิ่มขึ้นอีก

นายวรวิทย์ ชัยลิมปมนตรี กรรมการผู้จัด การธอส. กล่าวว่า คาดว่าจะรับคำขอสินเชื่อได้ ครบภายใน 1 สัปดาห์ โดยธนาคารจะรับคำขอสินเชื่อ 3.5 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เกินจาก 2.5 หมื่นล้านบาทจะขึ้นเป็น waiting list ไว้ หรือขึ้นบัญชีรอไว้ก่อน เพราะคาดว่าในจำนวนผู้ขอสินเชื่อ 2.5 หมื่นล้านบาท จะมีผู้ได้รับอนุมัติประมาณ 80% หรือเหลือวงเงินสินเชื่อประมาณ 5,000 ล้านบาท ไว้ให้ผู้ขอสินเชื่อในล็อตหลังได้

นายวรวิทย์กล่าวว่า แคมเปญนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างล้นหลาม โดยข้อมูล ณ เวลา 16.30 น. มีลูกค้ายื่นกู้ในวันแรก 5,875 ราย วงเงิน 8,885 ล้านบาท เฉลี่ยรายละ 1.5 ล้านบาท โดยลูกค้าส่วนใหญ่มาใช้บริการที่สาขาสำนักพระราม 9 (สำนักงานใหญ่) มากที่สุด วงเงิน 709 ล้านบาท รองลงมาเป็นสาขาเชียงใหม่ หาดใหญ่ พัทยา และศรีนครินทร์ ตามลำดับ ซึ่งการทำงานของธนาคารทุกขั้นตอนมีความชัดเจนและโปร่งใสด้วยระบบไอทีบันทึกข้อมูล ประมวลผลโชว์ตัวเลขวงเงินยื่นกู้ออนไลน์ทั่วประเทศแบบ Real Time ทุก 10 วินาที 153 แห่ง โดยธนาคารปิดระบบบันทึกข้อมูลในเวลา 17.00 น.

ด้านนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า โครงการนี้คาดว่าจะอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ที่มาขอกลุ่มแรกได้ใน 3 สัปดาห์นี้ และจะอนุมัติสินเชื่อได้ 2.5 หมื่นล้านบาท ภายใน 2 เดือน ส่วนจะมีการขยายวงเงินเพิ่มอีก 2.5 หมื่นล้านบาทหรือไม่ขึ้นอยู่กับนโยบายของรัฐบาลต่อไป ซึ่งคิดว่าโครงการนี้เป็นโครงการที่ดี ไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็ควรสานต่อ

"ในช่วงที่อนุมัติสินเชื่อ 2 เดือน น่าจะทันกับการจัดตั้งรัฐบาลใหม่พอดี ก็ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลในตอนนั้นจะตัดสินใจอย่างไร ถ้าจะให้ดีหากพรรคการเมืองไหนเห็นด้วยก็อยากให้ประกาศเป็นนโยบายออกมาเลยว่าจะสานต่อ เพื่อให้ประชาชนสบายใจ" นายกรณ์กล่าว

รมว.คลังกล่าวต่อว่า ให้นโยบายกับ ธอส. ว่า ต้องดำเนินการให้โปร่งใส ยุติธรรมมากที่สุด วิธีการขอสินเชื่อต้องเข้าถึงและตรวจสอบได้ ซึ่ง ธอส.ได้ออกแบบระบบรับคำขอสินเชื่อเหมือนกันทั่วประเทศ แสดงตัวเลขคำขอสินเชื่อชัดเจน เพื่อให้ประชาชนมั่นใจได้ว่าใครมาก่อนได้ก่อน ขณะเดียวกันทุกคำขอสินเชื่อก็ต้องมายื่นเอง ไม่ได้ใช้การผ่านโครงการ หรือฝากพนักงานใน ธอส.ยื่นกู้ให้

"หากประชาธิปัตย์กลับมาเป็นรัฐบาลก็พร้อมที่จะสานต่อนโยบายนี้ต่อไป ทั้งในส่วนของตัวเงิน ที่จะปล่อยเพิ่มจนครบ 5 หมื่นล้านบาท ซึ่งตรงกับความต้องการของประชาชน และการขยายโครงการในส่วนของการแปลงค่าเช่าเป็นค่าผ่อนบ้าน ให้กับประชาชนที่มีรายได้น้อย ซึ่งจะดำเนินได้ในรัฐบาลต่อไป" นายกรณ์กล่าว

สำหรับรายละเอียด "โครงการบ้าน ธอส. เพื่อที่อยู่อาศัยแห่งแรก" วงเงิน 2.5 หมื่นล้านบาท เสนออัตราดอกเบี้ย 0% 2 ปีแรก ปีที่ 3-5 คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR -0.50% ต่อปี (ลูกค้าสวัสดิการ) ส่วนลูกค้ารายย่อยทั่วไปคิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR ปีที่ 6 เป็นต้นไป คิดอัตราดอกเบี้ยเท่ากับ MRR -1% ต่อปี (ลูกค้าสวัสดิการ) MRR -0.50% ต่อปี (ลูกค้ารายย่อยทั่วไป) ปัจจุบันอัตราดอกเบี้ย MRR ธอส. เท่ากับ 6.75% ต่อปี ผ่อนได้นานสูงสุด 30 ปี พิเศษสุดสำหรับลูกค้าตามโครงการนี้ รัฐบาลช่วยแบ่งเบาภาระค่าจดจำนอง และค่าธรรม เนียมการโอนครึ่งหนึ่งหรือจ่ายตามจริงสูงสุด 1% (จากค่าโอนปกติ 2% ของราคาประเมิน) โดยกำหนดเงื่อนไขการให้กู้สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อที่อยู่อาศัยแห่งแรกเป็นของตนเอง จะต้องไม่เคยมีชื่อเป็นเจ้าบ้านในทะเบียนบ้าน และไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเอง ให้กู้เพื่อซื้อที่ดินพร้อมอาคาร หรือห้องชุด ให้กู้เพื่อปลูกสร้างอาคาร หรือเพื่อซื้อที่ดินพร้อมปลูกสร้างอาคาร โดยราคาที่อยู่อาศัยและวงเงินให้กู้ไม่เกิน 3 ล้านบาท และหลักเกณฑ์การพิจารณาการให้สินเชื่อเป็นไปตามระเบียบของธนาคาร

ส่วนเอกสารหลักฐานที่ลูกค้าต้องนำมาแสดงในวันยื่นกู้ ต้องลงนามรับรองสำเนาถูกต้องทุกฉบับ มี 5 อย่าง ได้แก่ 1.สำเนาบัตรประชาชน/ข้าราชการ/ทะเบียนสมรส (กรณีสมรสแล้ว) 2.สำเนาทะเบียนบ้านทุกหน้า 3.เอกสารแสดงรายได้ เช่น สลิปเงินเดือน หนังสือรับรองเงินเดือน บัญชีเงินฝาก สำเนาการค้าหลักฐานการเสียภาษีเงินได้ หรือหลักฐานการแสดงฐานะทางการเงินอื่นๆ 4.สำเนาสัญญาจะซื้อจะขาย/สัญญามัดจำ หรือสำเนาใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร/คำขออนุญาต และ 5.สำเนาโฉนด หรือสำเนาหนังสือกรรมสิทธิ์ห้องชุด

โดยธนาคารกำหนดขั้นตอนการรับเรื่อง 4 ขั้นตอน คือ 1.รับบัตรคิวและรับแบบฟอร์ม 2.ตรวจสอบความครบถ้วนถูกต้องของเอกสาร 3.รับบัตรคิวเพื่อรอบันทึกข้อมูล 4.เจ้าหน้าที่บันทึกข้อมูลจองสิทธิ์วงเงินกู้ดอกเบี้ยพิเศษตามลำดับบัตรคิว และลูกค้าจะได้รับใบติดตามเรื่อง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จะติดต่อกลับภายใน 1-2 สัปดาห์ ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่สาขาทั่วประเทศ 153 แห่ง สอบถามที่ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร.0-2645-9000 หรือ www.ghbank.co.th, www.ghbank.co.th