คนไข้ชาวอเมริกันคนแรกที่เข้ารับการผ่าตัดทั้งใบหน้า เปิดเผยตนเองต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก หลังการผ่าตัดผ่านพ้นเป็นที่น่าพอใจ ทำให้เขาเหมือนได้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้ง ขณะที่ลูกสาวบอกว่า พ่อของเธอหล่อเหลาเอาการทีเดียว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 10พฤษภาคม ว่า นายดัลลัส เวนส์ คนไข้ชายวัย 25 ปี ที่เข้ารับการผ่าตัดแบบเต็มโฉมหน้ารายแรกของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยผลการรับการทำศัลยกรรมต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก นับจากการผ่าตัดครั้งล่าสุดนาน 15ชั่วโมง เมื่อวันที่ 30มีนาคมที่ผ่านมาซึ่งมีคณะผู้เชี่ยวชาญมากถึง 30คน คอยดูแลตลอดกระบวนการ แต่ก่อนหน้านี้เขาเข้ารับการผ่าตัดมากถึงกว่า 20ครั้ง นับตั้งแต่ปี2551
ดัลลาส เวนส์ คนไข้ผ่าตัดปลูกถ่ายทั้งใบหน้า ซึ่งไว้เคราและสวมแว่นดำ ปรากฎตัวเป็นครั้งแรกต่อหน้าผู้สื่อข่าวและช่างภาพจำนวนมาก พร้อมกับคณะแพทย์ผ่าตัดที่โรงพยาบาลบริแกม แอน วีเมนส์ ที่นครบอสตัน รัฐเท็กซัส เขาบอกว่า รู้สึกเป็นธรรมชาติมากและเขาปรับตัวกับใบหน้าใหม่เร็วมาก โดยสามารถใช้จมูกหายใจและดมกลิ่นต่างๆ ได้อีกครั้ง ขั้นตอนการปรับตัวต่างๆ ถือว่าน่าทึ่ง เวนส์ยังบอกว่า สิ่งแรกที่จมูกเขาได้กลิ่นหลังไม่ได้กลิ่นมานานหลายเดือนคือ"ลาซานญ่า"ของโรงพยาบาล ซึ่งมีกลิ่นหอมน่าอร่อยมากและว่า ลูกสาวของเขา รวมถึงครอบครัว เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เขาเอาพ้นอุปสรรคต่างๆ มาได้ เขาวางแผนว่า จะกลับไปเรียนหนังสือระดับไฮสคูลและมหาวิทยาลัยอีกครั้ง หลังจากผ่านการพักฟื้นอย่างสมบูรณ์แล้ว
ด้านลูกสาวของเวนส์ บอกว่า พ่อของเธอหล่อเหลาเอาการขึ้นมากทีเดียว ซึ่งเป็นคำพูดแรกของลูกสาวที่ได้เห็นใบหน้าของพ่อ เวนส์ จากเมืองฟอร์ท เวิร์ท รัฐเทกซัส ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากแผลไหม้ หลังจากศีรษะของเขาสัมผัสกับสายไฟแรงสูงระหว่างทาสีโบสถ์แห่งหนึ่ง เมื่อเดือนพฤศจิกายน2551 ทำให้จมูก ริมฝีปากถูกทำลายและตาบอด เขาได้รับจมูก ริมฝีปาก กล้ามเนื้อ ผิวหนังและเส้นประสาทบนใบหน้าใหม่ทั้งหมด จากผู้บริจาคที่ไม่เปิดเผยชื่อ
ขณะที่ทีมแพทย์ผ่าตัด บอกว่า การปลูกถ่ายเปลี่ยนใบหน้า ไม่สามารถทำให้สายตาเขากลับมามองเห็นอีกครั้งได้ เพราะเส้นประสาทเสียหายหนัก ขณะที่แก้มซ้ายและขมับซ้ายจะรู้สึกได้เพียงบางส่วนเท่านั้น ด้านหัวหน้าทีมศัลยแพทย์ บอกว่า การปลูกถ่ายดีกว่าที่คาดไว้มากและขั้นตอนที่สนุกที่สุด คือในอีก 6-9เดือนจากนี้ เมื่ออวัยวะส่วนต่างๆ เริ่มกลับมาทำงานและใบหน้าของเวนส์จะเริ่มรู้สึกได้อีกครั้ง แต่ยังต้องติดตามการทำงานของระบบประสาทที่ใบหน้าและการทำงานของกล้ามเนื้อว่า ทำงานได้เป็นปกติหรือไม่ แต่แพทย์มั่นใจว่า เวนส์ จะดีขึ้นเรื่อยๆ
สำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดนั้น ทางกองทัพสหรัฐฯเป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อจะได้นำการทำศัลยกรรมเช่นนี้ไปใช้กับทหารอเมริกันอีกหลายนาย ที่มีปัญหาเรื่องใบหน้าเช่นเดียวกับเวนส์ โดยที่ผ่านมากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯได้มอบเงินเพื่อวิจัยด้านการผ่าตัดปลูกถ่ายให้กับคนไข้ 5คนรวม 3ล้าน 4แสนดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 102ล้านบาท ขณะที่ปัจจุบันมีผู้ได้รับการผ่าตัดปลูกถ่ายใบหน้าทั่วโลกประมาณ 12คน ทั้งในสหรัฐ ฝรั่งเศส สเปนและจีน
