เออาร์ไอพี (ARIP) ประกาศความสำเร็จงานคอมมาร์ต ซีมาร์ต 2011 ทำรายได้กว่า 1,800 ล้านบาท โดยสินค้าขายดีที่สุดในงานคือโน้ตบุ๊ค รองลงมาคือแท็บเล็ต ด้วยยอดขายและจองในงานเฉียด 10,000 เครื่อง
นายปฐม อินทโรดม กรรมการบริหารและ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เออาร์ไอพี จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดงาน คอมมาร์ต ซีมาร์ต ไทยแลนด์ 2011 ที่ผ่านมา ถือว่าประสบความสำเร็จ ยอดขายเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ 1,800 ล้านบาท ซึ่งทางผู้จัดงานถือว่าประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับเป็นอย่างมากตั้งแต่วันแรก สินค้าที่เตรียมไว้เพื่อจำหน่ายในงานไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคทั้งสินค้าไอทีและอิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะแท็บเล็ต และไอแพด 2 เป็นไปตามคาด ได้รับความสนใจจากผู้เข้าชมงานจำนวนมาก ส่งผลให้ยอดจอง และยอดขายตลอดทั้งงานกว่า 10,000 เครื่อง ประกอบกับเป็นช่วงเปิดเทอม จึงมีนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครองพาบุตรหลานมาซื้ออุปกรณ์ไอทีที่เกี่ยวข้องกับการเรียน ทั้งหมดนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้งานคอมมาร์ต ซีมาร์ต ในครั้งนี้มียอดขายเป็นที่น่าพอใจ
“’งานคอมมาร์ต ซีมาร์ต 2011 ครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดฉากตลาดไอทีไตรมาส 2 ได้อย่างสวยงามสามารถชี้แนวโน้มตลาดได้เป็นอย่างดีด้วยกระแสที่ดีตั้งแต่ต้นปี ซึ่งยอดขายในงานได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มของตลาดไอที ที่กลุ่มลูกค้าที่ใช้โน้ตบุ๊กก็ยังไม่กระทบและไม่แย่งลูกค้ากันระหว่างไอแพดและโน้ตบุ๊ก เนื่องจากการใช้งานคนละแบบ ทำให้โน้ตบุ๊กยังครองความนิยมเช่นเคย"
สำหรับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต กระแสดีอย่างต่อเนื่องยอดขายสูงกว่าครั้งที่แล้ว เพราะมีโปรโมชันกระหน่ำราคาสินค้า ภายในงานมีการวางจำหน่ายแท็บเล็ต รุ่นใหม่ๆ หลายรุ่นหลายยี่ห้อ ทั้ง Acer, Toshiba, Samsung Dell, Asus และโดยเฉพาะไอแพด 2 ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคเป็นอย่างมาก มีผู้สนใจเข้าคิวรอซื้อตั้งแต่เวลา 01.30 น. ซึ่งเออาร์ไอพี พอใจกับภาพรวมการจัดงานคอมมาร์ตครั้งนี้ และจะจัดต่อเนื่องเช่นนี้ปีละ 4 ครั้ง เนื่องจากตลาดสินค้าไอที เป็นสินค้าที่ไม่หยุดนิ่ง มีสินค้ารุ่นใหม่ๆ มาตลอดเวลา
ทั้งนี้ ลำดับสินค้าที่ขายดีที่สุดอันดับหนึ่งคือ โน้ตบุ๊ก ยังเป็นครองแชมป์ สินค้าไอทีขายดี ซึ่งยอดขายรวมทั้งงาน 1,044 ล้านบาท รองลงมาคือ แท็บเล็ต ยอดขาย 180 ล้านบาท ส่วนอันดับสามเป็นของสมาร์ทโฟน นอกจากนี้กลุ่มสินค้าคอนซูเมอร์อิเล็กทรอนิกส์ อย่าง ทีวี 3 มิติยอดขายกระแสดีเช่นกัน การจัดงาน คอมมาร์ต ซีมาร์ต 2011 ได้ชี้ให้เห็นถึงแนวโน้ม และกระแสความต้องการใช้งานไอทีในช่วงไตรมาส 2 ที่ตลาด สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต มาแรง ส่งผลให้ตลาดแอพพลิเคชั่นเติบโตขึ้น ซึ่งกลุ่มสมาร์ทโปรดักส์แนวโน้มจะแข่งกันที่แอพพลิเคชั่น เนื่องจากที่มีความจำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งการใช้เพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการทำงาน เอนเตอร์เทนเม้นท์ ซึ่งกลุ่มไอทีที่เป็นสมาร์ทโฟนที่เน้นสมาร์ทโปรดักส์ เป็นเทรนด์ของการใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์ มีแนวโน้มเติบโตขึ้นตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา
