จนท.คุกโคราชเครียด ปืนยิงลูกสาว 2 คนดับ ก่อนฆ่าตัวตาย 3 ศพสยองคาบ้านหรู
« เมื่อ: วันนี้ เวลา 06:55:36 AM »
ผู้คุมซี7เรือนจำกลางนครราชสีมาเครียดจัด คว้าปืนยิงลูกสาว 2ศพ ก่อนจ่อขมับระเบิดสมองตัวเองตายตามหนีปัญหาครอบครัว
เมื่อวันที่ 23 พ.ค. พ.ต.ท.สูงศักดิ์ จันทเมนชัย สารวัตรเวร สภ.โพธิ์กลาง อ.เมืองนครราชสีมา ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต 3 ศพ ในบ้านเลขที่ 199/117 หมู่บ้านเซ็นทรัลพาร์ค ถนนเฉลิมพระเกียรติ หมู่ 2 ต.หนองจะบก ไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.อัทธชนม์ ช่วงงาม ผกก. พ.ต.อ.ชัยเดช ปานรักษา และ พ.ต.อ.วณัฐ อรรถกวิน รอง ผบก.ภ.จว. เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน แพทย์เวร รพ.มหาราช และหน่วยกู้ภัยฮุก 31
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้น รั้วรอบขอบชิด มีรถยนต์เก๋งจอดอยู่ภายในบ้าน 2 คัน ที่บริเวณห้องรับแขกพบศพนายปฏิภัทร สมภาค อายุ 45 ปี เจ้าของบ้าน มีตำแหน่งเป็นนักวิชาการอบรมวิชาชีพ ชำนาญการ เรือนจำกลางนครราชสีมา นอนเสียชีวิตอยู่บนโซฟาลักษณะคว่ำหน้า มือขวาถืออาวุธปืนขนาด 9 ม.ม. สภาพเหนี่ยวไกคาไว้ มีบาดแผลจากกระสุนปืนที่ขมับขวา 1 รู ใกล้กันพบศพ ด.ญ.ลภัสรดา เฐียรธนิศร์ อายุ 8 ขวบ ถูกยิงด้วยปืนขนาดเดียวกันที่ขมับขวา 1 นัด นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตบนโซฟา และ ด.ญ.วิศัลษยา เฐียรธนิศร์ อายุ 5 ขวบ ถูกยิงด้วยกระสุนขนาดเดียวกันที่ขมับซ้าย 1 นัด นอนหงายเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ที่พื้นซอกโซฟากับโต๊ะ เป็นภาพที่น่าสลดหดหู่ใจแก่ผู้พบเห็น โดยเด็กหญิงทั้ง 2 คน เป็นนักเรียนชั้นอนุบาลและประถมศึกษาที่โรงเรียนสาธิต ม.ราชภัฏนครราชสีมา
นอกจากนี้ยังพบปลอกกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุรวม 3 ปลอก โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง พวงกุญแจ ตุ๊กตาหมี หนังสือแจ้งให้ชำระหนี้ และจดหมายลาตาย ใจความระบุทำนองว่า รักลูกมาก อยากเอาลูกไปอยู่ด้วย ไม่อยากให้เป็นภาระใคร กลัวลูกจะลำบาก ตำรวจจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
จากการสอบสวนทราบว่า ผู้ตายทั้ง 3 คนเป็นพ่อลูกกัน ส่วนแม่บ้านชื่อ น.ส.ธันยาภัทร เฐียรธนิศร์ อายุ 40 ปี เป็นนักวิชาการสาธารณสุขประจำสำนักงานสาธารณสุข จ.นครราชสีมา โดยก่อนเกิดนายปฏิภัทรเพิ่งกลับจากเข้าเวร หลังจากนั้น น.ส.ธันยาภัทร จึงออกไปทำงาน ปล่อยให้ผู้เป็นพ่อดูแลลูกสาวอีก 2 คน และคาดว่าสามีภรรยาอาจจะมีปากเสียงทะเลาะกันเกี่ยวกับปัญหาส่วนตัวและปัญหาชีวิต กระทั่งช่วงสายผู้เป็นแม่โทรศัพท์ไปถามครูที่โรงเรียน จึงทราบว่า ลูกสาวทั้ง 2 คนไม่ได้มาเรียนตามปกติ พอกลับไปดูที่บ้านถึงพบว่าสามีและลูกสาวเป็นศพไปแล้ว
ต่อมา พล.ต.ท.เชิด ชูเวช ผบช.ภ. 3 เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก่อนเปิดเผยว่า คดีที่เกิดขึ้นเป็นเหตุฆ่าตัวตาย โดยผู้ตายใช้อาวุธปืนยิงลูกสาวตัวเองทั้ง 2 คน เริ่มจากยิงลูกสาวคนเล็กก่อน จากนั้นก็ยิงลูกสาวคนโต ก่อนยิงตัวเองตายตามรวม 3 ศพ สาเหตุสันนิษฐานว่าเกิดจากปัญหาครอบครัว โดยเฉพาะเรื่องหนี้สินต่าง ๆ ไม่มีสาเหตุจากเรื่องอื่นทั้งการพนัน ชู้สาว หรือยาเสพติดแต่อย่างใด.