เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ที่โรงแรมถาวรปาล์มบีชรีสอร์ท ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดประชุมเสริมสร้างความเข้าใจผู้ประกอบการสัก (TATOO) และบุคลากรผู้เกี่ยวข้องเพื่อให้นำสัญลักษณ์ทางศาสนาไปใช้อย่างเหมาะสม โดยมีผู้ประกอบการให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังประมาณ 100 คน โดยนายสมชาย เสียงหลาย ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า ได้มาทำความเข้าใจกับผู้ประกอบการสัก เพราะไทยเป็นศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลก ขอให้ผู้เกี่ยวข้องปฏิบัติตามคู่มือข้อควรปฏิบัติและไม่ควรปฏิบัติในวัฒนธรรมไทย
"รวมทั้งขอให้มีการสร้างความเข้าใจให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เกี่ยวกับการใช้สัญลักษณ์ทางพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะการสักไว้บนร่างกาย เพราะจะกระทบกระเทือนจิตใจคนไทย วธ.ยังประสานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด (สวจ.) ในจังหวัดท่องเที่ยวเพื่อให้มีการตรวจสอบถึงการสักภาพที่ไม่เหมาะสม รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศเพื่อให้แจ้งสถานทูตไทยทั่วโลก สร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวเมืองไทยด้วย ทั้งนี้ ผู้ประกอบการเสนอให้ออกใบประกอบวิชาชีพร้านบริการสัก และสร้างจรรยาบรรณวิชาชีพ เพื่อให้การบริการมีมาตรฐาน ซึ่งผมรับข้อเสนอดังกล่าวไปหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง" นายสมชายกล่าว
นายนนทิวัฒน์ จันทรประสิทธิ์ ผู้แทนกลุ่มผู้ประกอบการและช่างสักลาย จ. ภูเก็ต กล่าวว่า ต้องยอมรับว่า การให้บริการสักลายที่มีภาพเกี่ยวกับศาสนาต่างๆ ได้รับความนิยมแพร่หลายในวงการสักทั่วโลก แต่ไม่ใช่ช่างไทยคนไหนสักหน้าพระพุทธรูปต่ำกว่าเอวลงไป
ด้านนายเอกชัย วันเพ็ญ ผู้ประกอบการร้าน AKE Tatoo จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ตนจะไม่สักภาพพระพุทธรูปในตำแหน่งที่ไม่เหมาะสม และจะไม่สักให้เด็กที่อายุต่ำกว่า 15 ปี หากจะสักต้องมีผู้ปกครองรับรอง นอกจากนี้ยังพบข้อมูลที่น่าตกใจ คือชาวต่างชาติส่วนใหญ่นิยมสักสัญลักษณ์ทางศาสนาบริเวณที่ลับโดยเฉพาะก้น ถึงแม้ว่าเป็นสิ่งเคารพในศาสนาแต่เขาชื่นชอบและพอใจโดยไม่คำนึงถึงความเหมาะสม
