
ผู้ที่เป็นพ่อแม่จำเป็นต้องเข้าใจและปรับให้มีทัศนคติด้านบวกต่อเด็กมากขึ้น กล่าวคือพฤติกรรมที่ก่อปัญหาของเด็กไม่ได้เกิดจากความตั้งใจที่จะก่อกวนให้เกิดปัญหา แต่เกิดขึ้นจากความผิดปกติของสารเคมีในสมองทำให้เด็กไม่สามารถควบคุมตัวเองได้
นอกจากนี้พ่อแม่ยังจำเป็นต้องเรียนรู้เทคนิคที่ถูกต้อง เพื่อช่วยในการจัดการกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมบางอย่างของเด็ก อาทิ
1.จัดทำตารางเวลาให้ชัดเจนว่าเด็กต้องทำกิจกรรมอะไรในเวลาใดบ้าง ตั้งแต่ตื่นนอนจนกระทั่งเข้านอน
2.จัดหาสถานที่ที่เด็กสามารถใช้ทำงาน ทำการบ้าน อ่านหนังสือโดยไม่มีใครรบกวน และไม่มีสิ่งที่ทำเด็กเสียสมาธิอยู่ใกล้ๆ เช่น ทีวี หรือหน้าต่างที่สามารถเห็นเพื่อนบ้าน
3.ถ้าเด็กวอกแวกง่ายมาก หรือหมดสมาธิง่าย อาจจำเป็นที่จะต้องมีผู้ใหญ่นั่งประกบอยู่ด้วยระหว่างทำงาน
4.พยายามควบคุมอารมณ์ อย่าตวาด ตำหนิเด็ก หรือลงโทษทางกายที่รุนแรง และควรมีการตั้งกฎเกณฑ์ล่วงหน้าว่า เมื่อเด็กทำผิดจะมีการลงโทษอย่างไรบ้าง
5.เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็ก เช่น ความมีระเบียบ ความสุภาพ การรู้จักรอคอย รวมไปถึงหลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงต่างๆ\'ทำอย่างไรถ้าลูกท่านสมาธิสั้น\' (ตอน 2) thaihealth เป็นต้น
6.หาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโรค ADHD การตีหรือลงโทษทางร่างกายมักเป็นวิธีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมที่ไม่ได้ผล และมีส่วนทำให้เด็กมีอารมณ์โกรธหรือพฤติกรรมดื้อต่อต้าน และก้าวร้าวมากขึ้น วิธีการที่ได้ผลดีกว่าคือการให้คำชมหรือรางวัลเมื่อเด็กแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม รวมถึงการควบคุมพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม โดยการงดกิจกรรมที่เด็กชอบหรืออาจจะตัดสิทธิ์ต่างๆ
เมื่อผ่านช่วงวัยรุ่น ร้อยละ 30-50 ของเด็กที่เป็นโรคนี้มีโอกาสหายได้ ทำให้สามารถหยุดยาได้ในที่สุด เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่แล้วหากสามารถปรับตัวและเลือกงานที่ไม่จำเป็นต้องใช้สมาธิมากนักก็จะมีโอกาสประสบความสำเร็จและดำเนินชีวิตได้ตามปกติ ในขณะที่ผู้ใหญ่บางคนยังคงมีอาการของโรค ADHD อยู่มาก จึงจำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยยาอย่างต่อเนื่อง
การวินิจฉัยแต่แรกเริ่มและให้การดูแลรักษาเด็กที่เป็นโรคสมาธิสั้นอย่างถูกต้อง เป็นสิ่งจำเป็นและเป็นประโยชน์ต่ออนาคตของเด็ก ในรายที่ได้รับการวินิจฉัยเมื่ออายุมาก หรือไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องเพียงพอ จะมีความเสี่ยงต่อการมีปัญหาหรือโรคอื่นๆ ตามมาอีกมาก เช่น ปัญหาเด็กเกเร การติดเกม การติดยาเสพติด โรคเครียด หรือโรคซึมเศร้า เนื่องจากการวินิจฉัยโรคสามารถทำได้ไม่ยากและการรักษามักได้ผลดี จึงเป็นที่น่าเสียดายหากเด็กกลุ่มนี้ถูกละเลย โดยเฉพาะสมาชิกตัวน้อยในครอบครัวของท่านหรือแม้แต่ลูกรักของท่านเอง
ที่มา : thaimedtechjob