ที่หมู่บ้านปางอโศก ต.กลางดง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นพ.คำรณ ไชยศิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขต 14 ในฐานะผู้แทน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.สาธารณสุข ได้รับคำสั่งให้ลงพื้นที่ตรวจสอบเรื่องร้องเรียน การนำซากไก่ตายมาชำแหละ ซึ่งได้ส่งกลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่วหมู่บ้าน และยังสงสัยว่าจะมีการนำซากไก่ตายไปแปรรูปเป็นอาหารเพื่อการบริโภค โดยลงพื้นที่พร้อมกับ ผวจ.นครราชสีมา และส่วนราชการในพื้นที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ ภายหลังการตรวจสอบ นพ.คำรณ เปิดเผยเบื้องต้นว่า พบว่าบ้านที่ได้รับร้องเรียน มีการนำซากตายแล้ว หรือที่เรียกว่า "ไก่น็อก" มากระทำการแปรรูปเป็นอย่างอื่น นอกเหนือไปจากการนำไปทำอาหารสัตว์ อีกทั้งยังตรวจพบว่ามีการใช้สารฟอร์มาลีนจำนวนมาก ซึ่งส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่ว โดยพบว่ามีการขนซากไก่ตายเข้ามาในปริมาณหลายตัน และบางส่วนยังได้แช่แข็งรอการดำเนินการแปรรูปไว้เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ สถานที่ดังกล่าวเคยถูกจับกุมไปแล้ว 1 ครั้งเมื่อวันที่ 19 เม.ย. มีปริมาณซากไก่กว่า 29 ตัน แต่ก็ยังเปิดดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านข้างเคียง และยังละเมิดกฎหมายด้านปศุสัตว์ที่ต้องทำลายซากไก่ตาย ณ สถานที่เลี้ยง ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งข้อหาต่อสถานประกอบการแห่งนี้ได้กระทำความผิดตามพ.ร.บ.การสาธารณสุข พ.ศ.2535 จริง มีความผิดใน 3 ข้อหาคือ สร้างความรำคาญ กระทำการอันเป็นอันตรายต่อสุขภาพ และกักเก็บอาหารมากเกินพื้นที่ 200 ตร.ม. และได้รายงานการตรวจสอบให้ทางรมว.สาธารณสุขทราบเพื่อให้สั่งการต่อไป
นพ.คำรณ ยังกล่าวว่า ขอให้ประชาชนได้มั่นใจว่าในการจำหน่ายเนื้อไก่ หรือเนื้อสัตว์แปรรูปตามตลาดสดขนาดใหญ่ที่ได้มาตรฐาน สามารถเลือกซื้อได้อย่างปลอดภัย ส่วนกรณีนี้ การจับกุมสามารถจับกุมได้เพียง 4 ราย จากประมาณ 11 ราย โดยส่วนใหญ่คาดว่าจะส่งไปจำหน่ายยังตลาดห่างไกล และเป็นตลาดเล็กๆเท่านั้น ทั้งนี้ ทางผวจ.นครราชสีมาได้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจในการเลือกซื้อเนื้อสัตว์แล้ว.
ข้อมูลโดย : เดลินิวส์
